นายกฯ เยี่ยมชมแอ่งท่องเที่ยวชีทวน ตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ร่วมฟ้อนกองตุ้มต้อนรับครึกครื้น ย้ำ ปชต.มีไว้สำหรับทุกคน อ้อน นายกฯเป็นคนรับใช้ไม่ต้องไหว้ แขวะหัวหน้ารบ.ต้องมีความรู้ ไม่ใช่แค่อนุมัติงบ รับถ้ารักลุงตู่ๆ สู้ตาย
วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ที่แอ่งท่องเที่ยวชุมชน บ้านชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เยี่ยมชมแอ่งท่องเที่ยวชีทวน ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของกระทรวงมหาดไทย และเป็นการส่งเสริมการขายสินค้าในชุมชนจากการท่องเที่ยว โดยใช้เสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชุมชนจากการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ขี่จักรยาน เที่ยววัด ทำอาหารท้องถิ่น และพักค้างคืนในรูปแบบโฮมสเตย์ ทั้งนี้ การท่องเที่ยว ชุมชนยังเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ส่งผลให้ชุมชนสามารถคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและ กระจายรายได้สู่ชุมชน
ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึง พล.อ.ประยุทธ์ ถือพานขันหมากเบ็ง (พานดอกไม้บูชาถวายพระ) ขบวนเทศน์ปฐมสมโภชแบบโบราณ โดยมีขบวนฟ้อนกลองตุ้ม ต้อนรับเข้ามายังหอแจก เพื่อกราบนมัสการพระเทพปัญญามุณี เจ้าอาวาสอาวุธวิกสิตาราม ซึ่งเป็นชาวพื้นเพชีทวน ซึ่งพระเทพปัญญามุณีได้มอบของที่ระลึกและเหรียญพระพุทธวิเศษ ให้กับนายกรัฐมนตรี
จากนั้นพระเทพปัญญามุนีได้ขึ้นธรรมาสน์สิงห์เทิน เพื่อเทศปฐมสมโภชโบราณให้นายกรัฐมนตรีและคณะรับฟัง ในเนื้อหาการเป็นผู้นำที่ดีของผู้บริหารที่ทำให้ประเทศเกิดความสงบสุข นักบริหารหรือผู้นำที่ดีต้องประกอบด้วย ต้องมีความอดทนยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องมีการตื่นตัวรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ ต้องมีความขยันหมั่นเพียรไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค ต้องมีความเอื้อเฟื้อแบ่งปันแบ่งงานกระจายงาน ต้องมีความเมตตากรุณามีความเป็นธรรมมีความเที่ยงธรรม และต้องมีความรอบคอบตรวจสอบติดตามงานของผู้ใต้บังคับบัญชาหากเกิดปัญหาต้องช่วยแก้ไข
ทั้งนี้ การเทศน์ปฐมสมโภชดังกล่าวเป็นประเพณีแหล่งวัฒนธรรมของชาวชีทวนซึ่งจะมีปีละครั้งในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นธรรมาสน์แห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีรูปแบบแตกต่างจากธรรมาสน์โดยทั่วไป คือ มีลักษณะเป็นรูปสิงห์ ยืนเทินปราสาท (ตัวธรรมาสน์) สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้ทำเป็นชั้นซ้อนลดหลั่น ประดับตกแต่งลายปูนปั้น และลายเขียนสีแบบศิลปะญวนทั้งหลัง ตัวธรรมาสน์ ตั้งอยู่ในหอแจก (ศาลาการเปรียญ) ทรงไทยที่มีจิตรกรรมฝ้าเพดาน ศิลปะสกุลช่างเดียวกัน ถือเป็นประติมากรรมที่มีคุณค่ายิ่งทางด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบลชีทวน และสักการะหลวงพ่อพุทธวิเศษ ณ วัดทุ่งศรีวิไล
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งในการทักทายชาวบ้านที่มาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้บ้่นเมืองสงบสุข ร่มเย็น ปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกต้องเลิกได้แล้ว จะต้องไม่แบ่งพวกแบ่งฝ่ายอีกต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า การช่วยเหลือประชาชนอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่รัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่อะไรที่เป็นเรื่องเล็กก็ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันทำด้วย เพราะทุกคนเป็นคนไทยและคำว่า ประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตยสำหรับทุกคน อย่าให้ใครมาบอกว่าเป็นว่าเป็นประชาธิปไตยสำหรับคนรวยเท่านั้น โดยประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงโอกาส ทำตามกฎหมายและกติกา ซึ่งกติกามีไว้เพื่อไม่ให้สังคมวุ่นวาย อลม่าน เมื่อสังคมไม่อลหม่านไม่ขัดแย้ง ไม่ปลุกระดมให้เกลียดชังกันสังคมก็จะมีความสงบเรียบร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีการนำโฉนดที่ดินคืนให้ประชาชนจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ต้องขอร้องข้าราชการอย่าปล่อยเงินกู้ หากมีการปล่อยกู้จะโดนลงโทษทางวินัย ซึ่งกฎหมายมีข้อกำหนดเรื่องอัตราดอกเบี้ยอยู่แล้ว เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ที่มีการชะลอและประนอมหนี้มาตลอด ใครเป็นหนี้ก็ต้องชดใช้ จะยกหนี้ให้ได้อย่างไร เป็นหนี้ก็ต้องทยอยใช้ใครไม่เคยเป็นหนี้บ้างตนเองก็เคยเป็นหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ พูด ได้มีประชาชนยกมือขึ้นไหว้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า “เอามือลง มือเอาไว้ไหว้พระ ไหว้เจ้านาย นายกฯ เป็นคนรับใช้ อย่าคิดว่าเป็นนายกฯแล้วจะวิเศษวิโส ขณัเดียวกัน คนเราถ้าทำความดีทำสิ่งที่ดีงามก็ไม่ต้องไปหลบตาใคร เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาใช้เสียงพูด ถ้าไม่รักนายกฯไม่เป็นไรแต่ปมจะทำให้ ถามว่ามีใครพูดได้อย่างผมบ้าง เพราะผมเองสามารถพูดต่อเนื่องได้ 5 ชั่วโมง ที่พูดได้เพราะอ่านเยอะ และรู้ปัญหาทุกกระทรวง”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นหัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่แค่อนุมัติงบประมาณ แต่การบริหารราชการแผ่นดินต้องรู้ทุกเรื่อง ไม่ใช่ฟังแล้วไม่รู้เรื่องอะไร และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชอบตน แต่จะทำให้อยู่แล้วเพราะนี่คือประเทศไทย ขณะเดียวกัน ตนไม่ได้ทำเพื่อรัฐบาลหรือเพื่อคสช. และขออย่าวนกันอยู่เรื่องเดิมๆไม่เช่นนั้นความคิดใหม่ๆ ก็ไม่เกิดและย้ำว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ไม่ได้วางไว้เพื่อสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด
จากนั้นตัวแทนชาวบ้านได้ร่วมกันร้องเพลง สู้เพื่อแผ่นดิน พร้อมตะโกนว่า “พวกเรารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ” พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับยิ้มก่อนตะโกนตอบกลับทันทีว่า “ถ้ารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ตาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เวลา 17.00 น.นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเยี่ยมขมศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินฉุกเฉินกู้ชีพองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ณ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินและสั่งการจังหวัดอุบลราชธานี