“บิ๊กเจี๊ยบ” สั่งตั้ง กก.สอบต้นสังกัดพลทหารเลี้ยงไก่ ย้ำผิดลงโทษวินัยเด็ดขาด พร้อมปกป้องพลทหาร เผยหลักพิจารณาขอใช้พลทหารยึดหลักความเหมาะสม สมัครใจ ไม่กระทบงานกองทัพ ชี้โลกเปลี่ยนไปมาก ขรก.ต้องรู้อะไรควรหรือไม่ ทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พลทหารนายหนึ่งเปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่หลังต้องการมารับใช้ชาติ ที่กองพันทมหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ (ค่ายธนะรัชต์) อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ถูกให้มาเลี้ยงไก่ชน และถูกด่าทอต่างๆ นานาหากเลี้ยงไก่ไม่ดีว่า เรื่องของพลทหารที่ศูนย์การทหารราบนั้นรอผลการสอบสวนอยู่ แต่ถ้าพบว่ากระทำการไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า สำหรับรายละเอียดในการขอใช้พลทหารทุกภารกิจ จะพิจารณา คือ 1. ภารกิจที่ขอมาเหมาะสมเหมาะสมหรือไม่ และต้องไม่กระทบภารกิจหลักของกองทัพ โดยการขอมานั้นทางผู้บังคับหน่วยก็จะเป็นผู้อนุมัติ เพราะการจะขอคนไปช่วยในภารกิจต่างๆ จะมีทั้งองค์กรภาครัฐ และเอกชน แต่เราก็ต้องดูว่าเป็นภารกิจที่เหมาสมหรือไม่ 2. ความพร้อมของหน่วย ในจำนวนพลทหารที่มีอยู่ และ 3. ถ้าเป็นภารกิจที่นอกเหนือจากกองทัพก็ต้องทำความเข้าใจกับทางกำลังพลที่จะไปปฏิบัติภารกิจนั้นๆ ด้วย ส่วนการที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะเข้าร้องต่อ ป.ป.ช. และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้นำเรื่องดังกล่าวไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมนั้น สามารถดำเนินการได้ อำนาจในการอนุมัติเป็นของ ผบ.หน่วย และการขอกำลังพลไปในภารกิจต่างๆ คนที่ขอกำลังพลจากทางหน่วยก็ต้องขึ้นกับองค์ประกอบทั้ง 3 ข้อที่ตนกล่าวไปแล้ว
เมื่อถามว่า ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียว่า “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” ตรงนี้จะให้ความมั่นใจได้อย่างไรในเรื่องของความปลอดภัยของพลทหารที่ออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าวอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า พลทหารนายดังกล่าวกลับเข้ามาอยู่ที่หน่วยแล้ว ยังไม่มีเรื่องอะไร ขณะนี้ทางหน่วยอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ที่ขอทหารไปแล้วไปปฏิบัติภารกิจที่ไม่เหมาะสม คือไม่มีการดูแลหลังจากที่กำลังพลไปปฏิบัติภารกิจนั้นๆ
“เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. และในวันเสาร์ ผมก็ได้รับรายงานในเบื้องต้น ขณะนี้ได้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนอยู่ที่ศูนย์การทหารราบฯ อย่าเหมารวมว่าจะเสียภาพลักษณ์ของทางทหารทั้งหมด อะไรที่เป็นเรื่องของตัวบุคคลก็เป็นเรื่องของบุคคลไป ปัจจุบันกำลังของกองทัพบกเอง ต้องตระหนักเสมอว่าการดำเนินการใดๆ ต้องสอดคล้องกับหลักการและข้อเท็จจริงของสังคม อะไรที่ไม่ได้รับการยอมรับ เราต้องไม่ปฏิบัติ” ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นการสะท้อนถึงการใช้โซเชียลมีเดียหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทาง ผบ.ทบ.เองก็ได้กำชับในเรื่องของการใช้สื่อโซเชียลฯ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องของความเดือดร้อนของเขาเองที่โพสต์ขึ้นมา และเมื่อตรวจพบเราจึงได้สั่งตรวจสอบในข้อเท็จจริงทันที ก็จะมีอย่างนี้มาเรื่อยๆ จริงบ้าง เท็จบ้าง แต่ถ้าเป็นความจริงเราก็สั่งดำเนินการทันที เมื่อถามว่าต่อไปจะมีการพิจารณานำพลทหารมารับใช้ในบ้านหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ตามที่ตนได้กล่าวไปแล้วว่าผู้บังคับหน่วยต้องมีการพิจารณาในส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าเป็นสิทธิที่จะมาขอได้ ถ้าไม่มีความจำเป็นและไม่มีความเหมาะสมก็ไม่ได้ เมื่อถามว่าทาง ผบ.ทบ.เองได้เน้นย้ำในเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีกจะดำเนินการอย่างไร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในสังคมปัจจุบันทุกคนเองไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือส่วนอื่นที่เป็นข้าราชการ ต้องตระหนักว่าอะไรควรอะไรไม่ควร โลกมันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว จะกลับไปทำเหมือนเดิมๆ คงไม่ได้แล้ว ทาง ผบ.หน่วยทุกท่านต้องตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองว่าทำงานที่ไหน ปฏิบัติอะไร อย่างไร เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว กรณีนี้เป็นเพียงประเด็นประเด็นเดียวเท่านั้น เมื่อมีเหตุขึ้นมาตนก็รีบตรวจสอบทันที แต่ก็ไม่ได้เชื่อโซเชียลฯ ทั้งหมด แต่ถ้าเราตรวจสอบแล้วเป็นความจริงก็รีบดำเนินการทันที