สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เบรก อปท.แต่งตั้ง ขรก.ใหม่ เป็นกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง-กรรมการรับงาน แม้ไม่มีระเบียบข้อใดสั่งห้าม ย้ำไม่ควรพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ หรือคณะกรรมการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ในกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ฉบับปี 60 เนื่องจากผู้ที่อยู่ระหว่างการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ 6 เดือน ชี้ยังเป็นผู้ที่ขาดความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ระเบียบวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้อง ชัดเจน อันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการได้
วันนี้ (11 ก.ค.) แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (กถ.) มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ให้ดำเนินการเกี่ยวกับข้าราชก่ารหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่บรรจุและแต่งตั้งใหม่ใน อปท.กว่า 7,852 แห่ง โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่เพิ่งมีการบรรจุกว่า 2 หมื่นอัตรา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
โดยหนังสือระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้ดำเนินการ สอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 และได้มีการ บรรจุและแต่งตั้งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 นั้น
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเห็นว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นไปตามหลักและระเบียบวิธีปฏิบัติราชการ เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ดังนั้นจึงขอให้จังหวัดแจ้งและกำชับ พร้อมขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการเกี่ยวกับข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่บรรจุ และแต่งตั้งใหม่ โดยยังไม่พ้นกำหนดเวลาทดลองปฎิบัติหน้าที่ราชการ
โดยให้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับ มีหน้าที่เสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ในระหว่างการทดลอง (6 เดือน) ปฏิบัติหน้าที่ราชการมีวินัย ป้องกันมิให้กระทำผิดวินัย โดยให้เป็นไปตามประกาศ กองกลาง (ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต.) เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ ให้มีการสอนงาน มอบหมายและให้ทดลองปฏิบัติงาน เพื่อให้รู้ระเบียบแบบแผนของทางราชการ แล้วค่อยให้ทำงานที่ยากขึ้นตามลำดับ
อปท.ควรพิจารณาเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ทัศนคติที่ดีต่อระบบราชการ คุณธรรมและจริยธรรมให้แก่ผู้ที่อยู่ระหว่างการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ อันจะทำให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ควรพิจารณาแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ หรือคณะกรรมการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เนื่องจากผู้ที่อยู่ระหว่างการทดลองปฏิบัติ หน้าที่ราชการยังเป็นผู้ที่ขาดความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ระเบียบวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้อง ชัดเจน อันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการได้
นอกจากนั้น การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้าส่วนราชการแล้วแต่กรณี ไม่ควรพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็น ผู้รักษาราชการแทน ทั้งนี้ ควรพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีความเหมาะสม แก่การรับผิดชอบการปฏิบัติราชการในสำนัก กอง หรือส่วนราชการตามประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลขององค์กรบ่กครองส่วนท้องถิ่น
มีรายงานว่า แม้จะไม่มีข้อห้ามหรือมีระเบียบใดห้ามให้ตั้งข้าราชการบรรจุใหม่เป็นคณะกรรมการจัดซื้อ-จัดจ้าง โดยระบุเพียงในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น 2535 และแก้ไข (ข้อ 28) และคำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารงานพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ข้อ 3) 3.2 ว่า คณะกรรมการจัดซื้อ-จัดจ้าวงเงินเกินหนึ่งหมื่น มีอย่างน้อย 3 คน โดยคำนึงถึงลักษณะหน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง ประธาน 1 คน กรรมการอย่างน้อย 2 คน ในการปฏิบัติแต่งตั้งจากบุคลากรของหน่วยงานเจ้าของเงิน (ระดับ 3 ขึ้นไป) กรณีบุคลากรไม่เพียงพอ ให้ไล่ระดับต่อไป
กรณีวงเงินไม่เกิน 1 หมื่น เเต่งตั้งจากข้าราชการ 1 คน (ยกเว้นผู้จัดซื้อหรือจัดจ้าง) และมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุหรืองานที่ตรวจรับพอสมควร