“ประยุทธ์” วอนพวกตำหนิ “13 หมูป่า” เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเกิดกับตัวเองบ้างก็คงทุกข์ร้อนไม่ต่างกัน ชี้ มองแง่ดีช่วยให้ไทยได้บทเรียนหลายอย่าง ทั้งการเอาตัวรอด การกู้ภัย การทำงานที่ต้องวางแผนรอบคอบ พร้อมชม “ณรงค์ศักดิ์” มีคุณสมบัติที่ผู้ว่าฯทุกจังหวัดพึงมี ซึ่งช่วยให้การทำงานครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
วันที่ 6 ก.ค. เวลา 20.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งว่า กรณี 13 ชีวิตทีมหมูป่าที่ติดภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แม้จะไม่ได้สร้างความเสียหายในวงกว้าง แต่ความทุกข์ร้อนใจก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียง 13 ครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากว่าถ้าเราทุกคนเอาใจเขามาใส่ใจเราแล้ว ก็ลองตรึกตรองให้ดีว่า ถ้า 13 ชีวิตในถ้ำนั้นคือลูกหลาน ญาติพี่น้องของเราที่กำลังประสบภัยจากธรรมชาติ ถูกกักอยู่ในความมืด มีทุกข์กาย ทุกข์ใจ อย่างแสนสาหัสในชีวิต แล้วก็เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือจากภายนอกด้วยความหวัง ที่จะได้กลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ในเร็ววัน ตนคิดว่าเราทุกคน ก็คงจะมีความรู้สึกทุกข์ร้อนใจไม่ต่างกัน เราถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้จึงเป็นไปตามหลักเมตตาธรรม และหลักมนุษยธรรม โดยทั่วไป
“ผมก็อยากจะวิงวอนให้ทุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้ตระหนัก และอยู่บนหลักพื้นฐานดังกล่าวด้วย เมื่อเขาออกมาได้ เขาคงมีแต่เพียงคำพูดขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ แล้วเขาก็สามารถแสดงออกได้ด้วยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่อเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นพลังดีๆ สำหรับรับใช้สังคมและพัฒนาประเทศชาติต่อไป ถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ให้กับรุ่นน้อง รุ่นหลังต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เรียกว่าโอกาสนั้น ก็คือ อยากจะชวนให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้คิดตามถึงประโยชน์ที่เราทุกคนและประเทศชาติ จะได้รับจากการมองโลกในแง่ดี หรือที่เรียกว่าคิดบวก กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อาทิ 1. ได้รับความรู้ในหลากหลายแง่มุม นำมาประมวล เกิดแนวความคิด ก็เหมือนกับการทำงานวิจัย หากหาความรู้เพิ่มเติม แล้วก็เป็นบทเรียน จากประสบการณ์ของผู้อื่น เช่น การเอาชีวิตรอดในถ้ำเป็นเวลานานๆ หรือในพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะพึ่งพาจากภายนอกได้ คงไม่เฉพาะเรื่องถ้ำอย่างเดียว อาจจะมีหลงป่า ซึ่งก็เกิดมาโดยตลอด
2. เรื่องการทำงานร่วมกันอย่างมีระเบียบ แบบแผน และการเคารพกติกา การปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าเป็นการบูรณาการกันในรูปแบบประชารัฐ ด้วยความร่วมมือกันของภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน รวมทั้งจิตอาสา ที่อาจจะเรียกได้ว่าไร้ขอบเขตข้อจำกัด ทุกคนก็ทุ่มเทและลงมาอยากจะช่วย แล้วก็มีการขยายวงกว้างจากชาวแม่สาย ชาวเชียงราย ไปชาวไทยทั้งประเทศ แล้วไปสู่ชาวโลก ได้เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในรูปแบบบุคคลและองค์กร รวมแล้วกว่า 50 หน่วยงาน เป็นจำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องหลายพันคน ที่ทำงานประสานสอดคล้องกันภายใต้ ศูนย์อำนวยการร่วม ซึ่งตนได้ตกลงใจมอบหมายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้น ทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ อย่างต่อเนื่องจนถึง ณ เวลานี้ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ ในการสั่งการ ตัดสินใจ และกำกับดูแลการทำงานในภาพรวมอย่างใกล้ชิด ให้การป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปตามแผนการปฏิบัติ ข้อห้าม ข้อบังคับที่กำหนด ซึ่งเกิดจากการหารือกันทุกฝ่ายอย่างรอบคอบแล้ว ทั้งในระดับรัฐบาลแล้วก็ทุกกระทรวง ก็ได้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นระบบ
“ทั้งนี้ ก็อาจจะด้วยลักษณะ ความเป็นผู้นำของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเอง ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้การทำงานที่เราต้องเอาชนะธรรมชาติ แข่งกับเวลา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ชื่นชมของทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต้องพึงมี”
3. คนไทยได้เรียนรู้ว่าการทำงานใดๆ ก็ตาม จะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ที่เรียกว่า แผนหลัก แผนรอง แผนเผชิญเหตุ เราต้องศึกษาปัจจัยสภาวะแวดล้อมทั้งปวงที่อาจจะส่งผลกระทบ เช่น น้ำฝน น้ำบาดาล ต้นน้ำจากป่าเขา จะส่งผลอย่างไรบ้าง ต่อปริมาณน้ำทั้งในถ้ำ นอกถ้ำ ซึ่งมันจะเป็นอุปสรรคต่อการช่วยชีวิต และเราจะต้องคิดถึงแผนเผชิญเหตุ กรณีที่อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิด เราต้องป้องกัน โดยการแก้ไขอย่างไม่ประมาทไม่ให้มันเกิดเสียหายแล้วค่อยไปล้อมคอกทีหลัง
4. ณ วันนี้ประชาชนจากหลายประเทศทั่วโลก ได้รู้จักประเทศไทยของเรามากยิ่งขึ้น มีหลายประเด็นที่สำคัญจากการติดตามข่าวสาร จากสื่อต่างๆ ของไทย และสื่อต่างชาติแทบทุกสำนัก รวมทั้งสื่อโซเชียลที่ไร้พรมแดน อันนี้ต้องระมัดระวัง เพราะทุกคนเป็นนักข่าวได้หมด วิพากษ์วิจารณ์ได้หมด บางทีข้อมูลอาจจะไม่ครบ เพราะฉะนั้นต้องคิด ต้องเข้าใจ ว่าเรามีกฎหมายอย่างไร มีวิธีการปฏิบัติอย่างไร เราได้มีการปรับเปลี่ยนแผนได้แค่ไหน ไม่ใช่ทำอย่างหนึ่งถูกใจ แต่สร้างอีกปัญหาหนึ่ง เกิดขึ้นมาภายหลัง ต้องตามแก้กันอีก เพราะฉะนั้นเราต้องมีแผนสำรองไว้ทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการป้องกัน แก้ไขแล้วก็ฟื้นฟู
5. ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บันทึกเป็นแผนบทเรียน หรือแผนการฝึกในส่วนของที่เป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพราะอันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องฝึกในยามที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ไปด้วย
นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า ขอให้กรณีศึกษาของไทยเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า ก็จะต้องประสานทั้งหมด พลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชน ภาคเอกชนต่างๆ อาจจะเรียกง่ายๆ ได้ว่าแผนประชารัฐ เอาไปใช้ได้ทุกอย่าง แล้วก็แก้ไขข้อบกพร่องในครั้งนี้ ไม่ให้เกิดซ้ำอีก ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจะต้องไม่มีปัญหาอีกในครั้งต่อไป ต้องสมบูรณ์ที่สุด การวางแผน การจัดทำระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ ป้ายต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว การสำรวจถ้ำที่น่าสนใจ เหล่านี้ ต้องเร่งสำรวจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ำนี้ ก็จะเป็นถ้ำที่ได้รับความสนใจจากคนทั้งโลก เพราะฉะนั้นก็อาจจะชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัย เราต้องสำรวจ ตรงไหนที่ไปได้ ตรงไหนไปไม่ได้ ต้องมีมาตรการป้องกันด้วย บางครั้งเราไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้ อันนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานในพื้นที่
“สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแห่งนี้ ผมเห็นว่าได้ถูกสำรวจ แทบทุกมุมมอง ทั้งภายนอก ภายใน และรับรู้อันตรายต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็ขอให้เตรียมการให้พร้อม วันหน้าอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย และของโลกด้วย” นายกฯ กล่าว
คำต่อคำ : ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน [6 กรกฎาคม 2561]
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ด้วยพระเมตตาธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสังฆราช และด้วยพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยอำนวยพร คุ้มครองภัยต่างๆ ให้เด็กและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คน ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ได้อยู่รอดปลอดภัย มีสวัสดิภาพทุกคน จวบจนถึงวินาทีที่ชุดดำน้ำกู้ภัยได้เข้าไปพบ อีกทั้งด้วยกำลังใจ พลังแห่งความศรัทธาและการสวดมนต์ภาวนาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากพี่น้องชาวไทยทุกช่วงวัย ทุกศาสนา และจากเพื่อนร่วมโลก ช่วยกันเป็นแรงผลักดัน เกื้อหนุนให้การปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ ในเบื้องต้น โดยยังคงเหลือขั้นตอนในเรื่องของการเคลื่อนย้ายออกจากถ้ำให้ปลอดภัย อีกทั้งให้มีการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งเรายังต้องดำเนินการร่วมกันอย่างรอบคอบต่อไป ทุกวิกฤตย่อมแฝงไว้ด้วยโอกาสเสมอ หากเรามองด้วยสายตาที่สร้างสรรค์ อย่างน้อยก็จะเป็นการแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงพลังแห่งความรู้รัก สามัคคีของชนชาติไทยของเรา ที่มีอยู่ในสายเลือด ทุกยุคทุกสมัย ทุกคราที่ชาวไทยร่วมแรงร่วมใจกัน เราก็จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและผ่านห้วงเวลาแห่งความยากลำบากไปด้วยกันได้เสมอ
ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง แม้จะไม่ได้สร้างความเสียหายในวงกว้าง แต่ความทุกข์ร้อนใจก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียง 13 ครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากว่าถ้าเราทุกคนเอาใจเขามาใส่ใจเราแล้ว ก็ลองตรึกตรองให้ดีว่า ถ้า 13 ชีวิตในถ้ำนั้นคือลูกหลาน ญาติพี่น้องของเราที่กำลังประสบภัยจากธรรมชาติ ถูกกักอยู่ในความมืด มีทุกข์กาย ทุกข์ใจ อย่างแสนสาหัสในชีวิต แล้วก็เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือจากภายนอกด้วยความหวัง ที่จะได้กลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ในเร็ววัน ผมคิดว่าเราทุกคน ก็คงจะมีความรู้สึกทุกข์ร้อนใจไม่ต่างกัน เราถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้จึงเป็นไปตามหลักเมตตาธรรม และหลักมนุษยธรรม โดยทั่วไป ผมก็อยากจะวิงวอนให้ทุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้ตระหนัก และอยู่บนหลักพื้นฐานดังกล่าวด้วย เมื่อเขาออกมาได้ เขาคงมีแต่เพียงคำพูดขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ แล้วเขาก็สามารถแสดงออกได้ด้วยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่อเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นพลังดีๆ สำหรับรับใช้สังคมและพัฒนาประเทศชาติต่อไป ถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ให้กับรุ่นน้อง รุ่นหลังต่อไปในอนาคต
สำหรับสิ่งที่ผมเรียกว่า โอกาสนั้น ก็คือ ผมอยากจะชวนให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้คิดตามถึงประโยชน์ที่เราทุกคนและประเทศชาติ จะได้รับจากการมองโลกในแง่ดี หรือที่เรียกว่าคิดบวก กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อาทิ 1. ถ้าเราใฝ่รู้และเฝ้าติดตามข่าวสารจากสื่อทุกแขนงอย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็จะได้รับความรู้ในหลากหลายแง่มุม นำมาประมวล เกิดแนวความคิด ก็เหมือนกับการทำงานวิจัย หากหาความรู้เพิ่มเติม แล้วก็เป็นบทเรียน จากประสบการณ์ของผู้อื่น เช่น การเอาชีวิตรอดในถ้ำเป็นเวลานานๆ หรือในพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะพึ่งพาจากภายยอกได้ คงไม่เฉพาะเรื่องถ้ำอย่างเดียว อาจจะมีหลงป่าบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งก็เกิดมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เขาทำก็คือว่า การหาน้ำบริสุทธิ์มากินแทนอาหาร เพราะเราขาดน้ำนานไม่ได้ การรักษาสมดุลของร่างกายไม่ให้ป่วยไข้จะทำอย่างไร ในสถานที่อับชื้นและมีอากาศเย็น การทำสมาธิเพื่อลดความหวาดกลัว และครองสติให้มั่นคง ไปจนถึง การทำความรู้จักกับถ้ำ ป่าเขา ตาน้ำ น้ำบาดาล และฤดูกาล เพื่อสามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้ อย่างไม่เป็นอุปสรรคต่อกัน แล้วข้อสำคัญก็ต้องศึกษาด้วย เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ที่มีพิษ ไม่มีพิษ ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ป่าเขา หรือถ้ำอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว ผมขอชื่นชม พี่น้องสื่อมวลชน ที่พยายามจะนำเสนอแง่มุมที่เป็นสาระประโยชน์ต่อสังคม ควบคู่ไปกับการรายงานสถานการณ์ และเป็นการรวบรวมกำลังใจ ส่งไปยัง 13 ครอบครัวของผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ทุกคนมาอย่างต่อเนื่อง
2. เรื่องการทำงานร่วมกันอย่างมีระเบียบ แบบแผน และการเคารพกติกา การปฏิบัติการครั้งนี้ผมถือว่าเป็นการบูรณาการกัน ในรูปแบบประชารัฐ ด้วยความร่วมมือกันของภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน รวมทั้งจิตอาสา ที่อาจจะเรียกได้ว่าไร้ขอบเขตข้อจำกัด ทุกคนก็ทุ่มเทและลงมาอยากจะช่วย แล้วก็มีการขยายวงกว้างจากชาวแม่สาย ชาวเชียงราย ไปชาวไทยทั้งประเทศ แล้วไปสู่ชาวโลก ได้เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในรูปแบบบุคคลและองค์กร รวมแล้วกว่า 50 หน่วยงาน เป็นจำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องหลายพันคน ที่ทำงานประสานสอดคล้องกันภายใต้ ศูนย์อำนวยการร่วม ซึ่งผมได้ตกลงใจมอบหมายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้น ทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ อย่างต่อเนื่องจนถึง ณ เวลานี้ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ ในการสั่งการ ตัดสินใจ และกำกับดูแลการทำงานในภาพรวมอย่างใกล้ชิด ให้การป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปตามแผนการปฏิบัติ ข้อห้าม ข้อบังคับที่กำหนด ซึ่งเกิดจากการหารือกันทุกฝ่ายอย่างรอบคอบแล้ว ทั้งในระดับรัฐบาลแล้วก็ทุกกระทรวง ก็ได้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ ก็อาจจะด้วยลักษณะ ความเป็นผู้นำของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเอง ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้การทำงานที่เราต้องเอาชนะธรรมชาติ แข่งกับเวลา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ชื่นชมของทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต้องพึงมี แต่ทั้งนี้งานก็คงไม่ใช่มีเรื่องนี้เรืองเดียว ก็มีอีกหลายงาน ที่จะต้องรับผิดชอบ เคยเรียนไปแล้วว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องทำหน้าที่เหมือนนายกฯ ของจังหวัด ต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน ส่วนราชการให้ได้ เพราะผลงานปรากฏออกมาในพื้นทีของตัวเอง ทุกหน่วยงานก็ต้องร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ทั้งนี้ เราก็ต้องจัดระเบียบการทำงานให้ครบกระบวนการ ตั้งแต่แรก ตั้งแต่ระดับนโยบาย รัฐบาล กระทรวง มหาดไทย และทุกกระทรวง ในการที่จะให้กรม หรือหน่วยงานปฏิบัติเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อจะจัดระบบ ติดตามสถานการณ์ และการบูรณาการกัน ตามแนวทาง ประชารัฐ
เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม แล้วก็มีฝ่ายต่างๆ มาทำงานจากหลายส่วน ถ้าเราจัดโครงสร้างตรงนี้ไม่ได้ตั้งแต่แรก ก็จะวุ่นวายสับสนไปหมด ส่วนอะไรเป็นส่วนปฏิบัติ ส่วนอะไรเป็นส่วนสนับสนุน ส่วนอะไรเป็นเรื่องของธุรการ ส่วนใดเป็นเรื่องของข่าวประชาสัมพันธ์ เหล่านี้ ต้องจัดรูปแบบให้ดี แล้วก็จัดสายการบังคับบัญชา ให้ชัดเจน ทุกคนก็อยู่ในกรอบ ในกฎระเบียบอันนี้ เพราะว่าอยู่ในแผนป้องกันบรรเทาสาธารณภัยอยู่แล้ว กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยรับผิดชอบ รัฐมนตรีมหาดไทย กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ ในนามของรัฐบาล
เรื่องที่ 3. ผมเชื่อมั่นว่าวันนี้ คนไทยได้เรียนรู้ว่าการทำงานใดๆ ก็ตาม จะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ที่เรียกว่า แผนหลัก แผนรอง แผนเผชิญเหตุ เราต้องศึกษาปัจจัยสภาวะแวดล้อมทั้งปวงที่อาจจะส่งผลกระทบ เช่น น้ำฝน น้ำบาดาล ต้นน้ำจากป่าเขา จะส่งผลอย่างไรบ้าง ต่อปริมาณน้ำทั้งในถ้ำ นอกถ้ำ ซึ่งมันจะเป็นอุปสรรคต่อการช่วยชีวิต และเราจะต้องคิดถึงแผนเผชิญเหตุ กรณีที่อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิด เราต้องป้องกัน โดยการแก้ไขอย่างไม่ประมาทไม่ให้มันเกิดเสียหายแล้วค่อยไปล้อมคอกทีหลัง เหมือนวัวหายแล้วล้อมคอกแก้ไขไม่ทัน เพราะอันนี้เป็นเรื่องของชีวิตต่อชีวิต เพราะฉะนั้นเรื่องการคิดการเตรีียมการต่างๆ ทำให้ครบวงจรเตรียมการล่วงหน้า วันนี้ก็เรื่องถ้ำ เรื่องดำน้ำ เรื่องอะไรต่างๆ มันต้องมีทีมค้นหาผู้ประสบภัยที่มีประสบการณ์ร่วมไปด้วยอย่างเช่น ทีมนักดำน้ำต่างประเทศ หน่วยซีล ซึ่งมีความเข้มแข็ง เป็นหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ไม่ใช่ใครเป็นพระเอก คงไม่ได้นะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกอย่างต้องมีคนนำ คนตาม คนสนับสนุนต่างๆ มันต้องไปพร้อมกันหมด แต่ต้องคัดแยกคนให้ดี การดำน้ำหาทางเข้า ค้นหาผู้ประสบภัย ต้องมีการเตรียมอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพ ปฏิบัติงาน โดยให้คำนวณให้เพียงพอ จนกระทั่งการเคลื่อนย้ายขาออกด้วย อย่างที่เห็นแล้ว วางเครื่องมือสื่อสาร วางถังดำ วางอุปกรณ์ให้แสงสว่างเหล่านี้ เพราะเข้าทีออกทีมันไม่ใช่เวลาสั้นๆ ไปก็นำอุปกรณ์ไปด้วย เท่าที่สามารถนำไปได้ ถึงตรงไหนก็ตรงนั้น พอไปได้ก็ไปตั้งต่อ เรียกว่่า เป็นการต่อระยะหน้าออกไป ที่สำคัญที่สุดก็จะต้องมีการซักซ้อมการปฏิบัติทั้งจากแผนผังสังเขปได้ร่างไว้ เป็นแผนที่เดียวกันซักซ้อมภายนอกพื้นที่ใกล้เคียงแล้วค่อยเข้าไป เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตน การสั่งการ การบังคับบัญชา แผนการปฏิบัติเมื่อพบอะไรก็แล้วแต่ รายงานสื่อสารจะทำได้อย่างไร
เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนจะสามารถที่จะสอดประสานการทำงานได้โดยอัตโนมัติตามภาระหน้าที่ของตนเองตามประสบการณ์การทำงานของตนเอง เมื่อเราซ้อมมาดีถึงเวลาปฏิบัติจริงมันก็ไม่มีปัญหา อันนี้นำมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงด้วย นี่เป็นหลักการการทำงาน แม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน ทุกสาขาวิชาชีพ
รัฐบาลและ คสช.พยายามจะนำเสนอกับพี่น้องประชาชนว่า เราจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ และแผนปฏิบัติต่างๆ เราได้กำหนดไว้แล้วว่า มีแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เราจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์มีการมองไปสู่อนาคต และกำหนดแนวทางการดำเนินการล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสามารถปรับเปลี่ยนได้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภายในภายนอก ปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
เราต้องมีการเตรียมมาตรการลดความเสี่ยงในอนาคตไว้ด้วย หรือเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดโดยไม่คาดคิด เราต้องมีสมมุติฐานตั้งไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าเกิดอย่างงี้เราจะทำยังไง ถ้าเกิดเรื่องนี้เราทำยังไง เราแก้ปัญหาอย่างไร แล้วถ้าปรับไปแล้วเกิดปัญหาอย่างอื่นซ้อนเข้ามาอีกจะทำยังไง เหล่านี้เราเรียกว่าสมมุติฐานสมมุติเอาไว้ แล้วเราจะมีการปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน ไม่หยุดชะงัก ไม่ใช่เตรียมแผนหลักไว้แผนเดียว มันไม่ได้ แผนหลัก แผนรอง แผนเผชิญเหตุ มันต้องมีอีกหลายแผน ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำลักษณะนี้ไว้ด้วย
เรื่องที่ 4. ณ วันนี้ประชาชนจากหลายประเทศทั่วโลก ได้รู้จักประเทศไทยของเรามากยิ่งขึ้น มีหลายประเด็นที่สำคัญจากการติดตามข่าวสาร จากสื่อต่างๆ ของไทย และสื่อต่างชาติแทบทุกสำนัก รวมทั้งสื่อโซเชียลที่ไร้พรมแดน อันนี้ต้องระมัดระวัง เพราะทุกคนเป็นนักข่างได้หมด วิพากษ์วิจารณ์ได้หมด บางทีข้อมูลอาจจะไม่ครบ เพราะฉะนั้นต้องคิด ต้องเข้าใจ ว่า เรามีกฎหมายอย่างไร มีวิธีการปฏิบัติอย่างไร เราได้มีการปรับเปลี่ยนแผนได้แค่ไหน ไม่ใช่ทำอย่างหนึ่งถูกใจ แต่สร้างอีกปัญหาหนึ่ง เกิดขึ้นมาภายหลัง ต้องตามแก้กันอีก เพราะฉะนั้นเราต้องมีแผนสำรองไว้ทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการป้องกัน แก้ไขแล้วก็ฟื้นฟู วันนี้เราก็จะได้ใช้ทั้ง 3 แผน ออกมาใช้กันที่วางไว้แล้ว ต่างคนต่างก็พยายามจะเสนอข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับบ้านเมืองของเรา ในหลากหลายมุมมอง ไม่ใช่เฉพาะเพียงเรื่องถ้ำนี้ หรือมาตรฐานการกู้ภัยของเรา ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับเขาได้ว่า วันหนึ่งถ้าเขาเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย แล้วอาจจะประสบภัยธรรมชาติ หรืออุบัติภัยต่างๆ ใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน ในเมือง ในป่าลึก ในถ้ำ ในน้ำตก ในท้องทะเล หรือมุมใดก็ตามในแผ่นดินไทย ผืนน้ำไทย เขาจะได้รับความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพในโอกาสแรกๆ โดยที่เราไม่ลดละความพยายาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างประเทศก็ตาม ถ้าอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ทุกคนต้องปลอดภัย เราต้องดูแลเหมือนกัน เวลาเราไปบ้านเขา เขาต้องดูแลเหมือนทีเราดูแลคนของเขา ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้
เพราะฉะนั้นเราอยากจะให้ประสบการณ์การกู้ภัยในครั้งนี้ ไปทำต่อในหลายเรื่องด้วยกันสิ่งสำคัญที่สุด ผมเคยบอกไว้แล้วว่า เสน่ห์ของเมืองไทยอยู่ที่ไหน เมืองไทยเขาบอกว่า 1 คือธรรมชาติสวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยอันตราย , 2 คืออาหารอร่อยนะครับ ราคาถูก มีคุณภาพ , 3 คือคนไทยน่ารัก มีอัธยาศัยไมตรีอันดี ในการดูแลเป็นเจ้าบ้านที่ดี 3 อย่าง เป็นลักษณะของคนไทยที่คนต่างประเทศชอบ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้เสียไป เพราะฉะนั้นอีกคำหนึ่งที่เขารู้จักกันมาก็คือ เมืองไทยนั้นเป็นเมืองที่เรียกว่ามีแต่รอยยิ้ม ที่เรียกว่า สยามเมืองยิ้มนั้นคืออะไร เราจะต้องมองข้ามภาพลบ ภาพความขัดแย้งในอดีต ภาพของการบังคับใช้กฎหมาย อย่ามาเกี่ยวข้องกัน เพราะคนละอันกันหมด เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกอันครับ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ของธรรมชาติในประเทศไทยอย่างแท้จริง อย่างที่เขานิยมมาเที่ยวไทย เสน่ห์ของอาหารและผลไม้ไทย การบริการ รวมไปถึงโบราณสถานที่ได้รับการดูแล แล้วเข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยต่างๆ วันนี้ผ่านสื่อหลายประเภท ประเทศไทยในมุมมองของโลก อะไรที่ไม่ดีก็ต้องแก้ไขโดยเร็ว จะได้ไม่เป็นเรื่องทีถ่วงสิ่งดีๆ ของเรา แล้วเราจะได้เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น ด้วยตนเอง ประสบการณ์ที่ดีๆ แล้วในครั้งนี้นั้น สิ่งที่เราต้องยึดในจิตใจเสมอคือ พระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับจิตอาสาชาวต่างประเทศที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ให้ดูแลเปรียบเสมือนอาคันตุกะของพระองค์ ซึ่งรัฐบาลให้การต้อนรับดูแล โดยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยว แล้วก็กระทรวงมหาดไทยแล้ว ในขณะนี้ได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจจะติดภารกิจต้องรีบกลับ แต่ส่วนหนึ่งจะอยู่ต่อ เราก็ติดตามดูแลเขา จนกว่าจะจบสิ้นภารกิจในฐานะเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้สมกับที่มีน้ำใจ เสี่ยงอันตรายมาช่วยเรา จนกว่าจะเดินทางกลับประเทศ
เรื่องที่ 5. ผมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บันทึกเป็นแผนบทเรียน หรือแผนการฝึกในส่วนของที่เป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพราะอันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องฝึกในยามที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ไปด้วย
กระทรวงมหาดไทยในบทบาทของการแก้ไขบรรเทาภัยพิบัติ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและในฐานะที่เป็นศูนย์บริการ และในบทบาทของการเป็นศูนย์บรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของรัฐบาล ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานซึ่งในขณะที่สถานการณ์อยู่ในระดับหนึ่ง ก็ได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับผิดชอบ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
ก็ขอให้กรณีศึกษาของไทย แล้วก็จะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า ก็จะต้องประสานทั้งหมด พลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชน ภาคเอกชนต่างๆ อาจจะเรียกง่ายๆ ได้ว่าแผนประชารัฐ เอาไปใช้ได้ทุกอย่าง แล้วก็แก้ไขข้อบกพร่องในครั้งนี้ ไม่ให้เกิดซ้ำอีก
ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นจะต้องไม่มีปัญหาอีกในครั้งต่อไป ต้องสมบูรณ์ที่สุด การวางแผน การจัดทำระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ ป้ายต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว การสำรวจถ้ำที่น่าสนใจ เหล่านี้ ต้องเร่งสำรวจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ำนี้ ก็จะเป็นถ้ำที่ได้รับความสนใจจากคนทั้งโลก เพราะฉะนั้นก็อาจจะชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัย เราต้องสำรวจ ตรงไหนที่ไปได้ ตรงไหนไปไม่ได้ ต้องมีมาตรการป้องกันด้วย บางครั้งเราไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้ อันนี้ผมถือเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานในพื้นที่
เราต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ในการกู้ภัยและช่วยชีวิต เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบดิจิตัล ในเรื่องของการติดต่อสื่อสาร ในเรื่องของการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอะไรอยู่บ้าง และก็ลดให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ซึ่งแต่ละหน่วยงานของเราต้องมีนะครับ
การจัดทำบัญชีเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้น ว่าจะเป็นของเอกชนรายใดที่บริจาคมา หรือที่จะนำมาร่วมมือช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ต้องขึ้นบัญชีไว้หมด เพราะบางทีส่วนราชการเครื่องมือไม่พอ ไม่พอก็มาเสริม เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าหน่วยราชการไม่มีอาจจะไม่พอในบางอย่าง เอกชนมีมากก็เอามาสมทบ มาช่วยกัน แล้วก็มีการบริจาคเพิ่มเติม
วันนี้ก็ได้ให้รวบรวมสิ่งของบริจาคทั้งหมด ขึ้นบัญชีให้เรียบร้อย ในการที่จะสามารถนำมาใช้ในโอกาสต่อไปได้ ก็ขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย
เรามีการสำรวจเครื่องไม้เครื่องมือที่เราไปทำงานในขณะนี้มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะระบบไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ เครื่องเจาะ เครื่องขุด เยอะแยะไปหมด ต้องขึ้นบัญชี ตรวจสอบสภาพ แล้วก็หากมีชำรุดก็รีบซ่อม เร่งซ่อมและนำเก็บรักษา เพื่อจะได้ใช้ได้ทันท่วงที ไม่ใช่จะหยิบมาใช้ก็เสีย ก็พัง ต้องระมัดระวังหน่อยในการใช้สิ่งของเหล่านี้ บางทีบอบบาง โยนโครมๆ ไม่ได้ พังหมด ช่วยกันประหยัดงบประมาณภาครัฐด้วย
ทั้งนี้ ทั้งหมดที่เราทำวันนี้ก็เพื่อเป็นการสนองตอบพระกระแสทรงรับสั่งว่า เราต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ ตระหนักถึงความเป็นมาเป็นไป แล้วก็นำบทเรียนนี้ ไปใช้ในการวางแผน ระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ และเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ
อย่างที่ผมบอกแล้วว่าต้องมีการทำแผนเผชิญเหตุ วิธีป้องกัน และแก้ปัญหา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานความห่วงใย เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
แต่เราในฐานะที่เป็นรัฐบาล หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งประชาชน ก็ต้องเป็นเรื่องที่พวกเราต้องดำเนินการให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนอยู่แล้วในลักษณะของการทำงานแบบประชารัฐ
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอนแห่งนี้ ผมเห็นว่าได้ถูกสำรวจ แทบทุกมุมมอง ทั้งภายนอก ภายใน และรับรู้อันตรายต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็ขอให้เตรียมการให้พร้อม วันหน้าอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ของประเทศไทย และของโลกด้วย
มีภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม และการเดินสำรวจ การดำน้ำสำรวจ ข้อมูลต่างๆเหล่านี้น่าสนใจ นำมากำหนดมาตรการต่างๆ ให้เกิดความเหมาะสม ไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีกอย่างน้อยเราก็จะต้องมีบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้ให้ได้ศึกษา ที่เรียกว่าห้องสมุดธรรมชาติที่ดีที่สุด ที่มีชีวิตของประเทศ อันที่จริงแล้ว
สถานการณ์ครั้งนี้ เราทุกคนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน รัฐบาลด้วย ข้าราชการด้วย ภาคประชาสังคม ธุรกิจ เอกชน ประชาชน เกษตรกรในพื้นที่ หลายอาชีพ ทุกคนก็มีส่วนร่วมทั้งหมด และทุกคนก็ได้ประสบการณ์อันมีค่าไปแล้ว เป็นประโยชน์อย่างมาก
เรามาพูดคุยกันต่อ ว่าจะทำยังไง เช่น ในเรื่องของความแข็งแรงของร่างกายผู้ประสบภัย ทั้ง 13 ชีวิต อันนี้เราโชคดีที่เค้าเป็นนักกีฬาฟุตบอล ถ้าเป็นเด็กอื่นอาจ ความอดทนอาจจะจำกัดกว่านี้
เพราะฉะนั้นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ทนทานต่อการอดอาหาร และสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย มาเป็นระยะเวลายาวนานนั้น ก็ต้องไปดู ว่าเราจะทำอย่างไร ต้องเตรียมการ ต่างประเทศเวลาเค้าจัดรายการแข่งขันออกกำลังกายที่หนักๆ เค้ามีการเตรียมร่างกายเป็นปีๆ
ฉะนั้นคนเหล่านี้เค้ามีความพร้อม แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมาเที่ยวและมีร่างกายแข็งแรงทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ เราต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือไว้ให้พร้อม
แล้วภาษาอังกฤษมีความสำคัญ พยายามพูด พยายามฝึกหน่อย ผมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรนะ แต่ถ้าเราพยายามก็น่าจะได้อย่างน้อยก็ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ครั้งนี้ก็จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ ติดต่อกับนักดำน้ำได้ด้วย ก็ชื่นชม
แม้กระทั่งเด็กผู้ประสบภัยเอง ก็ได้ใช้ประโยชน์ทางภาษาในห้วงเวลาวิกฤตนี้ คิดดูแล้วกัน ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จะทำยังไง ก็ต้องเสียเวลาไปอีกนานพอสมควร กว่าจะรู้กันว่าต้องทำอะไรกัน ก็เข้าไปพร้อมกันไง ทั้งนักดำน้ำต่างชาติ และทั้งนักดำน้ำของซีล ก็เข้าไปพร้อมกัน อยู่ในขบวนเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมเยาวชนของชาติให้มีความพร้อมด้วย
สำหรับจิตอาสา แม้ว่าจะไม่ได้มีบทบาทหลักในการกู้ภัย แต่การหยิบยื่นน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ช่วยเหลือ มีจิตสาธารณะนหลายคน หลายท่านที่เห็นเจ้าหน้าที่เขามีความพอใจ ก็คือที่มาช่วยซักผ้าเจ้าหน้าที่ มีการบริจาคสิ่งของ อาหาร ดูแล สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ ต่างๆ ที่จำเป็น
ให้การบริการอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ช่วยหยิบจับ ช่วยขนของ อีกมากมาย ผมอาจจะกล่าวได้ไม่ครบ ก็ล้วนแต่เป็นการปิดทองหลังพระทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนช่วยหล่อลื่นให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่าย และทำให้ภารกิจหลักๆ ประสบความสำเร็จด้วยดี
ด้วยความเสียสละ อันเป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ และน่ายกย่อง ความเสียสละพื้นที่นาให้เป็นแก้มลิง รองรับน้ำที่ระบายออกจากถ้ำ รัฐบาลจะเข้าไปดูแล ตอนนี้ก็เข้าไปสำรวจมาแล้ว เห็นออกข่าว ขอบคุณเกษตรกร เขาบอกยินดี เต็มใจ เขาบอกน้ำมา ข้าวตาย เขาบอกว่า ข้าวตายก็ปลูกใหม่ได้ แต่ถ้าเด็กเป็นอะไรไปมันไม่คุ้มค่ากัน เพราะฉะนั้นเขาภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม รัฐบาลก็จะดูแล ทุกอย่างไม่ใช่ว่าทำคนใดคนหนึ่งมันจะสำเร็จ พระเอกคนเดียวทำไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเป็นการบูรณาการทุกหน่วยงาน
สำหรับทีมนักประดาน้ำจากหลายประเทศ ทีมปีนเขาสูงเก็บรังนกจากเกาะลิบง ทีมขุดเจาะน้ำบาดาลจากโคราช ทีมเครื่องสูบน้ำหัวพญานาค จากนครปฐม โอ้ย กล่าวได้ไม่หมดหรอกนะครับ เยอะแยะไปหมด ขอชื่นชมนะครับ
วัดทุกวัด พระ ศาสนาทุกศาสนา ผู้นำในประเทศไทย ได้มีการการสวดมนต์ กล่าวคำอวยพร แล้วรวมความไปถึงการนั่งสมาธิ ประเทศไทย เราต้องเชื่อมั่น ยึดมั่น เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ก็ขอให้ยึดถือเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครู นักเรียน ทุกโรงเรียนที่ส่งกำลังใจไปช่วยกล่าวได้ไม่หมด ใครกล่าวไม่ครบก็ขอโทษด้วย ขอขอบคุณด้วยใจจริงๆ ของนายกรัฐมนตรี แล้วก็แทน 13 คน กับครอบครัวด้วย
พี่น้องประชาชนที่รักครับ ในวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตรงกับวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ผมขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย ทุกหมู่เหล่า ร่วมถวายพระพรชัยมงคล แด่เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ ของปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
นอกจากนี้ พระองค์จะทรงมีผลงานดีเด่นระดับโลก ในสาขาสารเคมีก่อมะเร็ง และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อมแล้วพระองค์ยังทรงได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งล่าสุดประสบความสำเร็จ ในการพัฒนายาชีววัตถุ ที่มีบทบาทสำคัญในการบำบัดรักษาโรคมะเร็งเต้านม ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เป็นนวัตกรรม "ชิ้นแรก" ที่ดำเนินการโดยนักวิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง โดยไม่ต้องอาศัยการซื้อ หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดมีโอกาสได้รับการรักษา โดยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง อีกทั้ง ช่วยให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองด้านยาชีววัตถุได้ และช่วยสร้างความมั่นคงทางยา รวมทั้งลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ จากความสำเร็จดังกล่าว สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พร้อมที่จะขยายปริมาณการผลิตไปสู่ระดับอุตสาหกรรม โดยจะร่วมมือกับโรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ต่อไป ซึ่งก็นับว่าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทย สามารถสร้างผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจของชาติพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อีกทั้ง จะเป็นการพัฒนาศักยภาพ และ กำลังคนของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
พี่น้องประชาชนที่เคารพครับ มีอีกเรื่องที่น่าชื่นชม และถือเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย และพี่น้องชาวไทย ในเรื่องการยกระดับการให้บริการทางสุขภาพของเราในอนาคต สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับรางวัลชนะเลิศจากการมอบรางวัล United Nations Public Service Awards ประจำปี 2561 ในสาขาการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ในการให้บริการสาธารณะ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จากผลงานเรื่องการป้องกันและควบคุมมะเร็งปากมดลูกแบบบูรณาการ โดยไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศ ที่ได้รับรางวัลดังกล่าวในปีนี้ จากทั้งหมด 437 ผลงาน 79ประเทศนะครับ โครงการนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะนำมาใช้ใน การปฏิรูปด้านสุขภาพของประเทศ เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของหลายฝ่าย ในลักษณะประชารัฐ และเป็นตัวอย่างที่ดีในการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนงานต่อไปด้วย
สำหรับอีกเรื่องหนึ่ง สถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย หรือ TIP Report ปีนี้ ที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เกิดต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่รับบาลและ คสช. เข้ามาใช้เวลาหลายปี คิดว่าเกือบ 4 ปีได้ จาก TIER 3 ก่อนหน้านั้นเป็น TIER 2 แล้วก็เป็น TIER 2 Watch List ใช่ไหม แล้วกลับมาเป็นTIER 3แล้วกลับมาเป็น TIER 2 ในที่สุด กลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ แล้วพยายามไปให้ถึง TIER 1 ให้ได้ หรือไม่มี TIER ในปีนี้ เราทำได้สำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้ว ใช้ความพยายาม 4 ปี ดูเอาแล้วกัน ปี 2559 - 2560 นี่กลับมาจาก TIER 2 Watch List มาเป็น TIER 2 ก่อนหน้านั้นก็เป็น TIER 3
เพราะฉะนั้นก็ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกฝ่าย ทั้งรัฐ ข้าราชการ ภาคเอกชน นักธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ก็คือผู้ประกอบการนั่นแหละ เจ้าหน้าที่ ช่วยกันสร้างชาติ พัฒนาประเทศของเราใช้กลไกประชารัฐไปสู่ความสำเร็จนทุกเรื่อง ทำให้ดีด้วยนะ ไม่ว่าจะ TIER ไม่ว่าจะIUU ICAO อะไรทำดีแล้ว ก็ทำต่อไป อะไรที่ยังแย่อยู่ก็ทำให้มากยิ่งขึ้น
อันนี้จะเป็นการประเมินผลงานของข้าราชการทุกคน ในทุกมิติ ในระดับผู้บังคับบัญชา ทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบการประเมินผล ทุกคนต้องทำให้ได้ดีทุกหน้าที่ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาเขา มีผู้บังคับบัญชาอยู่เป็นจำนวนมากนะครับ เพราะฉะนั้นต้องทำงานร่วมกันให้ได้
ขอบคุณครับ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และทุกครอบครัว มีความสุขนะครับ สวัสดีครับ