อดีตโฆษก พธม.แนะนักการเมืองอ่านรัฐธรรมนูญจริงจัง ระวังตายน้ำตื้น จี้ กกต.สร้างบรรทัดฐานกรณี “ทักษิณ” เข้าข่ายขัด พ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถี่ขึ้นและบ่อยขึ้น กระทั่งล่าสุดในงานเลี้ยงวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเห็นการวิดีโอคอลและการพูดคุยในงานเลี้ยงนั้น นายทักษิณได้แสดงให้เห็นว่ายังเป็นผู้ที่ยุ่งเกี่ยวและมีอิทธิพลที่สามารถครอบงำและชี้นำพรรคเพื่อไทยได้ เหมือนเดิม แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในขณะนี้แล้ว กรณีนี้จึงอาจเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28-29 ที่ห้ามผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือคนนอกพรรคยุ่งเกี่ยว แทรกแซง ครอบงำ ชี้นำพรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้ตาม มาตรา 92 ซึ่งมาตราดังกล่าวเป็นมาตราที่บัญญัติขึ้นใหม่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าใจว่าเจตนารมย์ของกฎหมายมาตรานี้เพื่อให้พรรคการเมืองเป็นอิสระดำเนินกิจกรรมการเมืองตามเจตจำนงของพรรคและสมาชิกพรรคไม่ใช่กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุน กลุ่มผลประโยชน์เหมือนที่ผ่านมาจนทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นสถาบันและไม่ตอบโจทย์ประชาชน
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า ฉะนั้นพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งที่รับและไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องอ่านและศึกษาให้ถ่องแท้ เพราะกลไกที่กำกับนักการเมืองและพรรคการเมืองมีกลไกใหม่ๆ หลายมาตรการ ถ้าจะใช้แค่ความเก๋าหรือพึ่งพาประสบการณ์เดิมๆ ระวังจะตายน้ำตื้นได้
“คำพูด ภาพและเสียงของคุณทักษิณได้ปรากฏไปทั่วสาธารณะแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่าพฤติกรรมดังกล่าวขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้มีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามกฎหมายนี้จำเป็นต้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องให้ใครไปร้องเรียน และเร่งหาข้อยุติเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้แก่ทุกพรรคการเมืองต่อไป” นายสุริยะใสกล่าว