xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเต่า” เล็งเพิ่มพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 55% ในปี 80 ยัน จนท.ป่าไม้มีอำนาจพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (แฟ้มภาพ)
รมว.ทรัพยากรฯ ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 55% ในปี 2580 ยันจัดการคนบุกรุกป่าก้าวหน้า เจ้าหน้าที่ป่าไม้มีอำนาจเพียงพอแล้ว เผยแนวคิดแก้ กม.ส่งเสริมปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์-ตัดไม้มีค่าในที่ตัวเองได้

วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธาน ว่าวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรก พูดคุยในเรื่องกว้างๆ เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบาย ที่ผ่านมาตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาก็ได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนไปมากแล้ว โดยมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติหลายคณะ เช่น คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) คณะกรรมการนโยบายจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) รวมถึงคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ซึ่งคณะทำงานเหล่านี้ทำงานครอบคลุมเรื่องป่าไม้ด้วย

พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า โดยผลการทำงานเป็นไปด้วยดีตามลำดับ ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติชุดนี้จะกำหนดทิศทางป่าไม้ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร โดยจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่แม้ว่ายังไม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่ในเรื่องป่าไม้มีการกำหนดไว้กว้างๆ ว่า ในปี 2580 คืออีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยควรมีป่าไม้พื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ เพื่อคนไทยในอีก 20 ปีข้างหน้าจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าไม้สมบูรณ์

พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า วันนี้พื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทย 323 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์ 102.4 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ การจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึง 155 ล้านไร่ในอีก 20 ปีข้างหน้าก็ต้องมีขั้นตอนการดำเนินการ พูดกว้างๆ คือจะบริหารจัดการป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์อย่างเข้มข้น ปกป้องคุ้มครองป่าที่มีอยู่ และส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าในภาคป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ โดยล่าสุดมีแนวคิดแก้ไขกฎหมายมาตรา 7 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 คือการส่งเสริมปลูกไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ หมายความว่า ใครก็ตามที่มีที่ดินที่ปลูกต้นไม้มีค่าก็จะถือเป็นทรัพย์สินเป็นมรดกได้ ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งหน้าคาดว่าจะมีคณะอนุกรรมการและผู้ที่เสนอแนวทางมากกว่านี้

เมื่อถามว่า มีแนวทางในการป้องกันนายทุนบุกรุกป่าอย่างไร พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรามีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) วันนี้ต้องแยกแยะว่าคนทำผิดกฎหมายป่าไม้นั้นมีมาก ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา พี่น้องประชาชนไปหาของป่าหรือไปตัดไม้ทำบ้านก็ผิดกฎหมาย ส่วนนี้เราจะแก้กฎหมายให้สามารถตัดไม้มีค่าในพื้นที่ของตัวเองได้ ส่วนคนที่ทำผิดเราก็มีเครื่องมือในการจัดการและมีหน่วยงานเฉพาะกิจที่ดูแลเรื่องนี้ซึ่งมีผลงานที่ก้าวหน้าเนื่องจากมีการบูรณาการระหว่างตำรวจและทหาร แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนการเอาผิดนายทุนใหญ่จากกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.ลำปาง และ จ.แพร่ บางคดีก็เข้าสู่กระบวนการคดีพิเศษแล้ว

เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดคุยเรื่องการให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ค่อยมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ทุกวันนี้เขาก็มีอำนาจอยู่แล้ว รวมถึงอำนาจของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2557 ที่มุ่งกระทำกับผู้บุกรุกป่า ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีเพียงนายทุน หากมีพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าถามว่าคนที่บุกรุกป่านั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องบอกว่าผิดแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้ยากไร้เราก็ผ่อนผัน เราดูแลด้วยนโยบายที่ดินแห่งชาติให้เขามีที่ดินทำกิน ไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้อยู่อาศัยได้


กำลังโหลดความคิดเห็น