xs
xsm
sm
md
lg

คืนเก้าอี้ 4 นายก อบจ.แค่ล็อตแรก-ตีฐานเพื่อแม้วร้องจ๊าก !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ทนเก็บอาการไม่ไหวต้องออกมาโวยวายกันแล้ว สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดวานนี้ (12 มิถุนายน) ได้กล่าวหารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า การคืนเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จำนวน 4 คน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการ “ล่าเมืองขึ้น” พร้อมกับตั้งข้อสังเกตและตั้งเป็นคำถามว่า

“ถ้าผู้บริหารท้องถิ่นรายใดในพื้นที่ใดยอมสนับสนุนพรรคในเครือข่ายของ คสช. ก็ได้ตำแหน่งกลับคืนมาหมดทุกแห่ง หรือถ้ามีคดีค้างคาใน ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ท. ก็จะหลุดหมดทุกคดีหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวนี้ ก็จะเป็นไปตามยุทธวิธีล่าเมืองขึ้น เพื่อหาฐานเครือข่ายสนับสนุนพรรคของ คสช. ในอนาคตใช่หรือไม่”

เพื่อให้เห็นภาพประกอบก็ต้องนำมาเสนอว่ามีที่ใดบ้าง ที่ได้รับคืนเก้าอี้จากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 จำนวน 4 คน คือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยเป็นคำสั่งที่ลงนามเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี เมื่อสองสามวันก่อน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยให้เห็นว่ายังจะมีการคืนตำแหน่งในล็อตต่อไปตามมาอีก หากพบว่าไม่มีความผิดหลังจากมีการตรวจสอบแล้ว และที่ผ่านมาก็มีการสั่งพักราชการเอาไว้

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากคำพูดของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า ตำแหน่งตามวาระของผู้บริหารท้องถิ่นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดได้หมดวาระ และเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งกันในเร็วๆ นี้ รอเพียงการผ่านกฎหมายจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติเท่านั้น ดังนั้น ตามความหมายที่ นายวิษณุ พูดมาก่อนมาก่อนหน้านี้ ก็คือ ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดเป็นการ “รักษาการ” ก่อนมีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นปลายปีนี้หรือปีหน้า ที่อาจเกิดหลังการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน หากเป็นการ “ล่าเมืองขึ้นได้สำเร็จ” พวกผู้บริหารท้องถิ่นเหล่านี้ย่อมเป็น “ฐานเสียง” ได้เป็นอย่างดี และยังรวมไปถึงกลายมาเป็นผู้สมัครของพรรคการเมืองที่สนับสนุนได้ดีอีกด้วย

และนี่อาจเป็นเหตุผลได้ดีว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงได้แสดงอาการโวยวายมากที่สุด เพราะเมื่อพิจารณาจากแต่ละพื้นที่แล้วล้วนเป็นพื้นที่ในภาคอีสาน และภาคเหนือ เห็นแค่รายชื่อจังหวัดก็เห็นคำตอบแล้วว่าล้วนแต่เป็นฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น

นอกเหนือจากนี้ บางตำแหน่ง บางรายชื่อหากเป็นผลจากการล่าเมืองขึ้นตามที่ว่าจริง โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ในรายของ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ ถือว่าพรรคเพื่อไทยเสียหน้ามาก เพราะคนในครอบครัวล้วนเคยเป็นพันธมิตรหลักของ ทักษิณ ชินวัตร และยังเป็นอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย กันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชียงใหม่ก็ไม่ต่างจากเมืองหลวงของพรรคดังกล่าวก็ว่าได้

ประกอบกับในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดพิจิตร และนครสวรรค์ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 - 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็มีความเคลื่อนที่น่าจับตาในช่วงเวลาเดียวกัน ก็คือ มีนักการเมืองมากกมายมารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี และมีการพูดคุยกันระหว่าง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีข่าวว่าเป็น “คีย์แมน” สำคัญในการก่อตั้ง “พรรคพลังประชารัฐ” กับพวกนักการเมืองและอดีต ส.ส. เหล่านั้นอย่างสนิทสนม แม้ว่าจะมีการปฏิเสธ แต่หลายเรื่องและความเคลื่อนไหวต่างๆ ล้วนประจวบเหมาะกันพอดี

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งและพื้นที่ที่ถูก “ปลดล็อก” ในระดับเก้าอี้การเมืองท้องถิ่นที่นำร่องออกมาก่อนล็อตแรก และเชื่อว่า จะตามมาอีกล็อตสองสาม ซึ่งบังเอิญว่าใกล้กับการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับ ส.ส. มันย่อมมีความหมาย แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง สำหรับพรรคเพื่อไทยที่งานนี้ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ออกมาโวยวาย นี่คือ แผนล่าเมืองขึ้น บ่อนเซาะฐานเสียงหลักๆ ลงไปเรื่อยๆ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงได้ร้องจ๊ากออกมา !!


กำลังโหลดความคิดเห็น