เมืองไทย 360 องศา
เชื่อว่าหลายคนคงมานั่งนึกกันว่ามันมีสาเหตุอะไรกันแน่ที่ทำให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอารมณ์เสียแบบต่อเนื่องกันถึงสองสามวันติด และล่าสุด ก็พรั่งพรูออกมาเป็นชุด ทำนองว่า “ถูกหยามเกียรตินายกฯ” ถูกบิดเบือนใส่ร้ายต่างๆ นานา อะไรประมาณนี้
หรืออ้างว่าเป็นเพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย มีเรื่องที่กลุ่มการเมืองพยายามก่อเรื่องวุ่นวาย สร้างสถานการณ์ให้วุ่นวาย จนนำมาอ้างเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงยังไม่ยอม “ปลดล็อก” เต็มรูปแบบ แต่จะใช้วิธีทยอยปล่อยออกมาทีละขยัก และพรรคไหนอยากจะหาเสียง หรือทำกิจกรรมพรรคก็ยังต้องขออนุญาตเป็นครั้งคราวไปเช่นเดิม
เอาเป็นว่าเรื่องแบบนี้จะว่าไปแล้วมันก็มีส่วนที่มากวนใจ ทำให้เสียได้เหมือนกัน แต่ขณะเดียวกัน มันก็น่าจะพอเข้าใจได้ ไม่เห็นจะต้องหัวเสีย อารมณ์กันรายวันต่อเนื่องกันแบบนี้ และผิดวิสัยของผู้ที่เป็นนายกฯ ซึ่งต้องถูกวิจารณ์กันทุกวัน และหากเทียบกับคนอื่นถือว่ายังน้อยไปเสียด้วยซ้ำไป
มันถึงทำให้ถูกมองว่า นี่คือ “การแสดงทางการเมือง” แบบหนึ่งเป็นเหตุผลเพื่อสื่อให้เห็นว่าหลายอย่าง “ยังไม่ปกติ” ต้องยื้อกันไปอีกสักพักหนึ่งก่อนหรือเปล่า แต่เมื่อสรุปโดยรวมๆ แล้วก็ยังเห็นว่ายังไม่สมเหตุสมผลนัก
แต่อย่างไรก็ดี หลังจากได้เห็นรายงานชิ้นนี้เข้ามา นั่นคือ สำนักข่าวบีบีซีไทยรายงานเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะจัดงานวันเกิดครบรอบ 51 ปี ให้กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 21 มิถุนายน ตามข่าวบอกว่า ตอนนี้ทั้งคู่ยังอยู่สหรัฐอเมริกา และจะออกจากที่นั่นไปกรุงลอนดอนตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน โดยหลังจากจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันที่ 21 มิถุนายนแล้ว พวกเขาก็จะบินไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียต่อไป
หากมองกันผ่านๆ ก็คงไม่รู้สึกอะไรนัก แต่เมื่อพิจารณาจังหวะเวลาและวันที่แล้ว มันช่างสอดคล้องกันอย่างเหมาะเจาะดีจริงๆ เพราะเมื่อพิจารณาจากกำหนดการเดินทางไปเยือนยุโรปสองประเทศคืออังกฤษและฝรั่งเศส ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับคณะ ก็บังเอิญว่าตรงกับช่วงเวลานั้นพอดี คือระหว่างวันที่ 20 - 25 มิถุนายนพอดิบพอดี
และหากพิจารณากันให้ละเอียดลงไปอีกนิดหนึ่ง ก็ต้องย้อนกลับไปดูข่าวที่ว่าก่อนหน้านั้นทางการอังกฤษได้อนุมัติวีซ่าให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พำนักอยู่ได้เป็นเวลา 10 ปี แม้จะไม่มีรายละเอียดตรงนี้หรือเธอใช้หนังสือเดินทางของยุโรปประเทศใด และกระทรวงต่างประเทศไทยก็ไม่มีคำอธิบายอะไรมากนัก แต่ในทางการเมืองแล้วก็ต้องถือว่า “เสียหน้า” ไม่น้อย
ขณะเดียวกัน สำหรับกำหนดการเดินทางไปอังกฤษและฝรั่งเศส ครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเที่ยวนี้ นอกเหนือจากการมีวาระสำคัญที่ไปโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นหลักแล้ว การมีกำหนดการได้พบกับทั้งนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของอังกฤษ และ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส มันก็น่ายินดีไม่น้อยสำหรับผู้นำที่มีฐานะเป็น “เผด็จการ” มันเหมือนชัยชนะทางการเมืองที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต้นแบบประชาธิปไตย แม้ว่าในปัจจุบันทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมาเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการค้า เหมือนกับที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา นำร่องมาแล้ว ซึ่งยุโรปก็กำลังเจอกับมาตรการกีดกันทางการค้าจากพันธมิตรเก่าอย่างอเมริกา จนคิดตอบโต้แบบไม่ลดราวาศอกกันอยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนมาพิจารณาว่า การพบกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับผู้นำของ อังกฤษ และฝรั่งเศส ครั้งนี้ น่าจะสมบูรณ์เต็มร้อยมากกว่านี้ หากมีข่าวคราวเรื่องจัดงานวันเกิดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมี ทักษิณ ชินวัตร ร่วมอยู่เฟรมเป่าเค้กวันเกิดในวันที่ 21 มิถุนายนวันนั้นด้วย มันก็ยิ่ง “กวนอารมณ์” ชวนให้หงุดหงิดไม่น้อย และเป็นเรื่องดังกล่าวหรือเปล่าที่ทำให้เกิดอารมณ์ “หัวเสีย” อย่างที่ว่าหรือเปล่า !!