สนช.เปิดสภา จัดโครงการพบประชาชน กทม.สะท้อนปัญหาใน 50 เขต พร้อมหนุน “โครงการไทยนิยม” ลงระดับหมู่บ้าน ด้าน “สุวพันธ์” ยันนายกฯ สั่งรับปัญหาไปแก้ไขทันที
วันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมรัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการ “สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ณ กรุงเทพมหานคร” มีตัวแทนชาว กทม.ทั้ง 50 เขต เข้าร่วมเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสมาชิก สนช.เข้าร่วมรับฟังปัญหา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่1 เป็นประธานในพิธีเปิด
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พบประชาชน กล่าวว่า ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนชาวกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตๆ ละ 10 คน รวมทั้งกลุ่มตัวแทนปัญหาอีก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มคนพิการมาสะท้อนปัญหาโดยมีผู้บริหารมารับฟังและชี้แจงตอบข้อซักถามต่าง ๆ ซึ่งสนช.เป็นอีกกลไกหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการลงพื้นที่เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำปัญหาเหล่านั้นไปสู่การแก้ไข นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล โดยจะลงพื้นที่ไปถึงในระดับหมู่บ้านซึ่งจะสามารถบูรณาการ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้ดียิ่งขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ตัวแทนทั้ง 6 โซน และ 4 กลุ่มปัญหา ได้นำเสนอปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กทม. เช่น ปัญหาการจรจร น้ำท่วม มลพิษ น้ำเสีย ขยะ ยาเสพติด ปัญหาน้ำกัดแซะชายฝั่ง ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น เป็นต้น
ด้านนายสุวพันธุ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา สนช.ได้ส่งรายงานปัญหาทั้งประเทศมาให้รัฐบาลทั้งหมด 176 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ที่ดิน น้ำแล้ง การคมนาคม รายงานเหล่านี้ได้ส่งไปให้ ครม.รับทราบและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาของประชาชนจะถูกนำไปสู่การแก้ไข ส่วนการสะท้อนปัญหาโดยตรงของชาว กทม.ในครั้งนี้อาจสะท้อนได้ไม่ทั้งหมด แต่รัฐบาลยินดีรับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปแก้ไขในอนาคต ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญ โดยก่อนการประชุมครั้งนี้นายกฯ ได้มีข้อสั่งการว่า อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่สะท้อนมา และเป็นสิ่งต้องดำเนินการ ขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบได้รับไปแก้ไขปัญหาทันที ตนจึงขอให้ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการด้วย