xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” แนะ “ดอน” ยังไม่ต้องลาออก รอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายดอน ปรมัตถ์วินัย(แฟ้มภาพ)
“วิษณุ” แนะ “ดอน” ยังไม่ต้องลาออกตอนนี้ ยังทำงานได้ตามปกติจนกว่าศาล รธน.จะชี้ขาดออกมา เชื่อสาเหตุที่ประธาน กกต.ออกเสียงชี้ว่าผิด เพื่อให้เป็นเสียงข้างมากแล้วส่งให้ศาลชี้ขาดเป็นบรรทัดฐานในอนาคต ระบุเป็นหุ้นมรดกของภรรยาที่ถือมาก่อน รธน.ฉบับใหม่บังคับใช้

วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีว่า ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทราบแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก กกต.ว่าใครผิดหรือไม่ผิด เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น และไม่ทราบว่านายดอนจะทราบเรื่องดังกล่าวแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวนี้ที่ระบุว่า กกต.มีมติ 3 : 2 คงไม่ใช่ปัญหา แต่หากนายดอนมีความผิดจริง กกต.ต้องยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อชี้ขาดต่อไป เพราะคู่สมรสของนายดอนมีหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทราบเท่านั้นเอง โดยที่ประชุม กกต.ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่มีความผิด เพราะนายดอนดำรงตำแหน่งก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ ส่วนอีกฝ่ายเห็นว่าผิด เพราะต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน จึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ดังนั้น ประธาน กกต.จึงออกเสียงชี้ขาดว่านายดอนผิดเพื่อที่จะได้ส่งให้ศาลชี้ขาด จะได้เป็นบรรทัดฐาน และคำวินิจฉัยชี้ขาดนี้จะนำไปใช้กับนักการเมืองต่อไปในอนาคตเพื่อป้องกันปัญหา

เมื่อถามว่า นายดอนจำเป็นต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่จำเป็น และเคยมีตัวอย่างมาแล้วในอดีต ยังทำงานต่อไปได้ตามปกติ ส่วนจะแสดงสปีริตลาออกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของนายดอน ส่วนตัวตอบไม่ถูก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีข้อกังวลใดๆ ขณะนี้ก็กำลังเตรียมการไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ซึ่งนายดอนก็ได้ดูแลเตรียมการให้นายกฯ เดินทางอยู่ นายดอนยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ทาง กกต.ก็เห็นว่าไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าศาลตัดสินว่านายดอนผิด ก็จะต้องปรับ ส่วนจะปรับอย่างไรก็แล้วแต่ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศยังมีรัฐมนตรีช่วยฯ อยู่ จึงไม่ถือเป็นภาระอะไร และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ก็เป็นคนกำกับอยู่แล้วกระทรวงนี้ จึงไม่เกิดปัญหาเหมือนกระทรวงอื่นที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยฯ

“ที่ผ่านมาเคยมีกรณีอย่างนี้มาแล้วในรัฐบาลอื่น รัฐมนตรีคนอื่นๆ แต่กรณีรัฐมนตรีดอน ไม่เหมือนกับคนอื่น เพราะนายดอนเป็นรัฐมนตรีมาก่อน แล้วในขณะที่เป็น กฎหมายยังไม่ได้ระบุเรื่องถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วพออยู่มามีรัฐธรรมนูญประกาศออกมาใช้ เรื่อง 5 เปอร์เซ็นต์ออกมา คุณดอนก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะคงถือว่าไม่ได้ทำอะไรมาตั้งแต่ต้น จึงทำให้เกิดปัญหาว่าอย่างนี้ผิดหรือไม่ผิด แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่หุ้นของคุณดอน แต่เป็นของภรรยา ซึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะกฎหมายบอกว่าถ้าถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์จะต้องทำ 2 อย่างคือ 1. แจ้งประธาน ป.ป.ช. 2. โอนหุ้นนั้นให้คนอื่นจัดการ เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นอะไรก็ตาม แต่มีข้อแม้ว่าไม่ใช่หุ้นสัมปทาน เพราะถ้าเป็นสัมปทานต้องหลุดไปเลย” นายวิษณุกล่าว

นายวิษณุกล่าวว่า แต่บังเอิญว่าภรรยาของคุณดอนมีมรดกจึงได้นำมาตั้งบริษัทกับพี่น้องภายในครอบครัว และถือหุ้นกันเองภายในพี่น้อง 7 คน โดยไม่มีคนอื่น แน่นอนว่าต้องเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วหุ้นนี้ของบริษัทนี้ไปดำเนินการทำคอนโดมิเนียมดูแลเก็บค่าเช่าเองเป็นบริษัทครอบครัว ไม่ได้ค้าขาย ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพราะฉะนั้นพูดถึงความสุจริต เราก็พอจะมองเห็น และด้วยเหตุนี้ กกต.ถึงได้ออกเสียง 2 ต่อ 2 ดังนั้น เมื่อประธาน กกต.เห็นอย่างนั้นจึงชี้ไปในทางว่าให้ผิดเพื่อส่งเรื่องไปยังศาล เพราะถ้าบอกว่าไม่ผิดก็จะกำกวมต่อไปอย่างนี้ ดังนั้น ให้ศาลตัดสินเพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าหุ้นที่เป็นบริษัทภายในกันเองเช่นนี้จะทำได้หรือไม่ เชื่อว่าภรรยาคุณดอนคงคิดว่าเป็นเรื่องมรดกภายในจึงไม่ได้แจ้ง

เมื่อถามว่า ตอนร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้มองในจุดที่อาจจะเป็นปัญหาลักลั่นอย่างนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “มันมีอะไรเยอะที่เขาเขียนไม่ชัด แล้วก็ทิ้งไว้ให้ ป.ป.ช.กับ กกต.ไปชี้เอาเอง เป็นธรรมดาที่เขาจะเขียนไม่หมดเพื่อให้ไปชี้ไปตัดสิน เหมือนกับที่บอกว่ารัฐมนตรีต้องไปถือประโยชน์ รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐเป็นข้อห้ามตามเจตนา ว่าไม่ให้ไปเป็นที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ เพราะปัญหาเคยเกิดขึ้นในสมัยนายกฯ ทักษิณ ว่ารัฐมนตรีที่ใช้บริการการบินไทยบ่อยๆ ได้สะสมไมล์รอยัลออร์คิด แล้วนำมาแลกตั๋วบิน ถือเป็นการรับประโยชน์หรือไม่ ฝ่ายหนึ่งบอกว่าใช่ อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าไม่ใช่ ก็ให้ ป.ป.ช.ตัดสิน ที่สุด ป.ป.ช.ก็ชี้ว่าไม่เป็น”

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีหนักใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้หนักใจอะไร


กำลังโหลดความคิดเห็น