อดีต ส.ส. กทม. บี้ เลขาสภา แจง ให้บริษัทเดียวเสนอราคาไอทีกว่า 100 รายการ ระบุ พฤติกรรมซ้ำรอย “สุวิจักขณ์” ส่อทุจริต แฉเพิ่ม จัดงบปรับอากาศทางเดิน 395 ล. ต้องใช้แอร์ขนาด 6 หมื่นบีทียู 6,583 ตัว ดักคอคนไร้ความรู้ด้านไอที เป็น ผอ.สารสนเทศ วางตัวเป็น ปธ. จัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ลั่น เกาะติด ปรับลดงบ ทำผิดยื่น ป.ป.ช. สอบแน่
วันนี้ (27 พ.ค) นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงเกี่ยวกับวิธีการเสนองบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อาทิ ราคาไมโครโฟน นาฬิกา และโทรทัศน์ที่มีราคาสูงผิดปกติ ซึ่งพบว่าวิธีการไม่แตกต่างจากพฤติกรรมของ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภา คือ ให้บริษัทเดียวเสนอราคาทุกรายการ เช่น บริษัทเครื่องเสียง จำกัด เป็นผู้เสนอราคาเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอซีทีบริษัทเดียวกว่า 100 รายการ จึงขอให้มีการเปิดเสป็ควิธีการเสนอราคาต่อสาธารณะเพื่อแสดงความโปร่งใส และตรวจสอบได้ แทนที่จะบอกว่ามีการปรับลดงบประมาณแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่า การบริหารของสภาชุดนี้ทั้งการก่อสร้างรัฐสภาใหม่และการบริหารบุคคลเละเทะและทุจริตมากที่สุด อีกทั้งเรื่องการของบประมาณก็ไม่เป็นไปตามวิธีปกติที่จะต้องส่งให้สำนักงบประมาณวิเคราะห์งบประมาณก่อน แต่สภากลับส่งเรื่องขออนุมัติจาก ครม. เลย กระทั่งตนออกมาท้วงติง นายกรัฐมนตรีจึงตีกลับ นอกจากนี้ ยังเตรียมการที่จะใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษโดยอ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้วย จึงขอเตือนว่าหากดำเนินการดังกล่าวอาจจะผิด พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างปี 60 ที่ให้รัฐวิสาหกิจที่มีธุรกิจ หรือกิจการที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรงเท่านั้นที่เข้าข่ายออกระเบียบของตัวเองได้โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ แต่หน่วยราชการอื่นต้องปฏิบัติ พ.ร.บ. นี้ จึงไม่น่าจะจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้
อดีต ส.ส.กทม. ยังยกตัวอย่างการตั้งงบประมาณที่สูงเกินจริง เช่น งานระบบปรับอากาศบริเวณทางเดินภายในอาคาร 395 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับต้องใช้แอร์ระบบตั้งเครื่อง 6 หมื่นบีทียู จำนวน 6,583 ตัว จะเป็นไปได้หรือไม่ และ อีกรายการหนึ่งคืองานผนังรอบอาคารห้องประชุม ส.ส. และ ส.ว. 230 ล้านบาท ซึ่งไม่ทราบว่าเอาฐานตัวเลขจากไหน นอกจากนี้ พบว่า มีการเตรียมการให้คนกลุ่มเดียวเป็นกรรมการหลายชุดที่รับผิดชอบเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภา โดยในกลุ่มดังกล่าวเกินครึ่งเคยถูกร้องว่าทุจริตแต่ก็พ้นผิดหมดและกลับมารับผิดชอบเรื่องก่อสร้างอาคารรัฐสภาอีกครั้ง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้ง นางสาวสิตาวีร์ ธีรวิรุฬ์ ผอ.สารสนเทศคนใหม่ ว่า จบปริญญาตรีสาขาภาษาไทย ปริญญาโทสาขาจิตวิทยาและการแนะแนว ไม่เคยผ่านงานด้านสารสนเทศเลย แต่ที่ได้ตำแหน่งเพราะมีใครต้องการให้เป็นประธานจัดซื้อจัดจ้างในโครงการนี้หรือเปล่า ซึ่งตนจะรอบทสรุปของการเสนองบประมาณการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ระบุว่า จะมีการปรับลดเหลือประมาณ 5 พันล้านบาท ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร หากยังมีปัญหาเหมือนเดิมก็จะยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าพฤติกรรมทั้งหมดส่อถึงการทุจริตและเพียงพอที่ผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นประธาน สนช. หรือนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการเอาผิดได้แล้ว