“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษมาเก๊า กระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า และการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน
วันนี้ (10 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชุย ไซออน (Mr. Chui Sai On) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมด้วย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับผู้บริหารสูงสุดมาเก๊าและคณะ ในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะผู้บริหารสูงสุดมาเก๊า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของการเยือนไทยของผู้บริหารสูงสุดมาเก๊า และให้ความสำคัญกับการเดินทางเยือนในครั้งนี้ โดยนำคณะนักธุรกิจร่วมคณะมาด้วย รวมทั้งการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน 2 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจังหวัดภูเก็ต ราชอาณาจักรไทย กับเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน และบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับสถาบันส่งเสริมการลงทุนและการค้าของมาเก๊า
นายกรัฐมนตรียังกล่าวชื่นชมเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ภายใต้การปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ รวมถึงการบริหารภายใต้การนำของผู้บริหารสูงสุดมาเก๊า ไทยพร้อมกระชับความร่วมมือกับ มาเก๊าอย่างรอบด้านเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ซึ่งมาเก๊าสามารถเป็นประตูให้กับไทยในการเข้าสู่ตลาดจีนทางตอนใต้ ขณะที่ไทยสามารถเป็นประตูให้กับมาเก๊าเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตามนโยบาย Thailand+1 และมั่นใจว่าการพบหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในบ่ายวันนี้ นักธุรกิจมาเก๊าจะได้รับทราบโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ไทยสนับสนุนข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (One Belt One Road) ของจีนซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ไทย อนุภูมิภาคและภูมิภาคดำเนินอยู่ คือ การสร้างความเชื่อมโยง เชื่อว่า เป็นข้อริเริ่มที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับมาเก๊าในเรื่องนี้ ไทยและมาเก๊าเห็นพ้องกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยเห็นว่าต่างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะภายหลังจากการเปิดใช้สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area : GBA) ที่มีกำหนดเปิดในปีนี้ ทั้งนี้ ไทยเห็นว่าโครงการสะพานเชื่อมมีความสำคัญช่วยเสริมบทบาทของมาเก๊าในการเชื่อมต่อกับฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้งผ่านเมืองจูไห่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับมาเก๊าในเรื่องนี้ รวมทั้งพร้อมร่วมมือกับมาเก๊าภายใต้กรอบความร่วมมือในพี้นที่สามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียงต่อไปด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลมาเก๊าที่ช่วยดูแลชุมชนคนไทย โดยไทยมีแรงงานคุณภาพ ทั้งในภาคบริการ การโรงแรม ภัตตาคาร ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของมาเก๊า
ด้านผู้บริหารสูงสุดมาเก๊ากล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นของรัฐบาลไทย โดยรู้สึกชื่นชมความสำเร็จในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของคนจีน โดยเห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันได้