“อภิสิทธิ์” เย้ย 4 ปี คสช. ปชช. ไม่คาดหวังอะไรแล้ว เปรียบ เหมือนเด็กทำวิทยานิพนธ์ไม่เสร็จแล้วขอต่อเวลา ทั้งที่ไม่ตั้งใจทำและคุณภาพไม่ได้ แนะเปลี่ยนตัวคนทำดีกว่า แต่ยังเชื่อเลือกตั้งปี 62 แน่ ชี้ยังไม่เห็นปัญหาต้องเลื่อนออกไป
วันนี้ (7 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการคุ้มหรือไม่ที่บ้านเมืองถูกยึดอำนาจโดย คสช. ใกล้ครบ 4 ปีแล้ว ว่า ใช้คำว่าคุ้มก็ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ในความรู้สึกของตน ถ้าพูดคำว่าคุ้มต้องไปคิดลักษณะการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนกลับมา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผู้ก่อรัฐประหารจะบอกว่าเป็นเรื่องของความจำเป็นว่าจะต้องหยุดยั้งสถานการณ์ ซึ่งมีความวุ่นวาย สุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า ความรุนแรง สังคมก็มองไม่ออกว่าถ้าไม่หยุดสถานการณ์จะเดินหน้าไปอย่างไร
พอมาถึงวันนี้เหมือนกับประเมินยาก เพราะโจทย์เปลี่ยน และเกือบ 4 ปีแล้ว ไม่คิดว่าจะยังอยู่ในสถานการณ์นี้ ไม่มีใครคิดว่าการรัฐประหารจะยาวอย่างนี้ และเมื่อเกิดการรัฐประหารเกิดขึ้นแล้ว คนก็หวังว่าอะไรจะดีขึ้น แต่เอาเข้าจริงเรื่องการปฎิรูปทั้งหลาย 4 ปีที่ผ่านมา ขยับน้อยมาก และไม่ใช่สิ่งที่คนคาดหวังอยู่ ตอนนี้นายกฯ มาพูดเรื่องจะเร่งปฎิรูป 5 ด้าน ในบรรยากาศตอนนี้ ตนบอกได้เลยว่า คนที่รอคอยการปฏิรูปไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว ส่วนการปฎิรูปการเมือง บอกว่าจะต้องทำการเมืองให้ดีกว่าเดิม ก็ต้องนึกถึงการเมืองที่สุจริต ลดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้า แก้ปัญหาประชาชนได้ แต่จากรัฐธรรมนูญ และพฤติกรรมในขณะนี้ ตนมองว่าประชาชนไม่ได้คิดว่าจะดีขึ้น รวมทั้งรัฐบาลที่ขยับมาขอเป็นผู้เล่นทางการเมืองด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การขอเวลาในการทำงานของรัฐบาล ตรรกะนี้จะใช้ได้ ถ้าสังคมมองเห็นว่าคนขอเวลาได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่มีความชัดเจน ทำให้เห็นว่าพยายามทำให้สำเร็จ แต่มีอุปสรรค ซึ่งตนไม่ได้มองว่าขณะนี้เป็นอย่างนั้น กลับมองว่าสิ่งที่เคยพูดว่าจะทำ 4 ปีที่ผ่านมา เช่น การปฏิรูปตำรวจ ต้องมาตั้งต้นกันใหม่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความถามว่าผู้มีอำนาจมีความชัดเจนแค่ไหน ว่า การปฏิรูป การเปลี่ยนแปลงการเมือง เป้าหมาย วิธีการคืออะไร ชวนสังคมให้มาร่วมคิด มาสนับสนุนแค่ไหน แต่ขณะนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น กลายเป็นว่า ยังไม่เรียบร้อย ผู้มีอำนาจก็ขอที่จะทำไปเรื่อยๆ
“เหมือนเด็กทำวิทยานิพนธ์ ทำแล้วส่งงานไม่ทัน แล้วมาขอยืดเวลาหน่อย ซึ่งอาจารย์ก็แบ่งได้ว่าเด็กบางคนไปทำเรื่องยากเกินไป เขาพยายามทำแล้ว ถ้ามีเวลาอีกสักนิดหน่อยเขาจะสำเร็จ และมีเด็กอีกประเภทที่อาจารย์ที่ปรึกษาดูแล้วว่าถึงต่อเวลาไปอีกกี่ปีก็ไม่เสร็จ หรือคุณภาพก็ไม่ได้ เปลี่ยนเรื่องเสียดีกว่า หรือเปลี่ยนคนทำก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมก็ต้องบอกว่าอารมณ์ของคนทั่วไปในขณะนี้จะใกล้เคียงกับเด็กคนหลังมากกว่าคนแรก” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เราคงได้เลือกตั้งประมาณปีหน้า แต่จะเจาะจงว่าเดือน ก.พ. 62 คงไม่มีใครกล้าพูดอย่างชัดเจน คงบวก ลบนิดหน่อยในความรู้สึกของคนทั่วไป เพราะยังมีความไม่แน่นอนเรื่องกรอบเวลาเกี่ยวกับกฎหมายลูก และมีขั้นตอนที่เปิดให้เวลาขยับได้ ส่วนว่าการเลือกตั้งต้องขยับออกไปอีกจะคุ้มกับสังคมหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าถ้าจะเลือกตั้งแล้วมีความไม่เรียบร้อย การที่จะขยับเพื่อให้เกิดความเรียบร้อนก็ต้องบอกว่า มีโอกาสที่จะคุ้ม แต่ขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าเกิดปัญหาอะไรที่ต้องมีการเลื่อนเลือกตั้ง และหากหัวหน้า คสช.เห็นว่าควรจะเลือกตั้งก็สามารถใช้อำนาจเพื่อจัดการให้เลือกตั้งตามกำหนดได้ ก็จะดีกับทุกฝ่ายในแง่ความมั่นใจ ซึ่งตนไม่เคยเรียกร้องว่าต้องเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ แต่การรักษาคำพูด การรักษาความน่าเชื่อถือของประเทศเป็นเรื่องสำคัญ