รองหัวหน้าพรรค ปชป. ย้อน “ประยุทธ์” ดูด ส.ส. ไม่ใช่ครรลอง ปชต. แต่จะก่อปัญหาขัดเจตนารมณ์ รธน. อัด อ้างอยากเห็นการเมืองยุคใหม่ แต่ตัวเองกลับถอยหลังไปยุคจอม พล ป.- ถนอม
วันนี้ (29 เม.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การดูด ส.ส. เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยของไทยตลอดมา ว่า การดูด ส.ส. คงไม่ใช่ครรลองประชาธิปไตยของไทยตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้าง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง และให้คนในรัฐบาล เพราะการดูด ส.ส. ของคนในรัฐบาลที่กำลังทำอยู่ขณะนี้ มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนให้ทั้งทางตรง และทางอ้อม เพื่อหวังให้คนเหล่านี้มาอยู่กับพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป
นายองอาจ กล่าวว่า การที่คนในรัฐบาลกำลังเคลื่อนไหวใช้อำนาจหน้าที่ของการเป็นรัฐบาล และใช้ผลประโยชน์ต่างๆ มอบให้ในการเจรจา ต่อรอง ดูด ส.ส. มาเข้าพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ถ้า คสช. รัฐมนตรี และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกต้องพ้นจากตำแหน่ง คสช. รัฐมนตรี และ สนช. ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้ เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้ คสช. รัฐมนตรี และ สนช. ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ ทั้งทางตรง และทางอ้อมในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงแม้คนในรัฐบาลจะไม่ไปสมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่การใช้สถานะของความเป็นรัฐมนตรีดูดอดีต ส.ส. เพื่อให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แล้วมาหนุน พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไปอีกสมัย จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
“ท่านนายกฯ ประกาศอยู่ตลอดเวลา ว่า อยากเห็นการเมืองไทยพัฒนาดีขึ้น อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วม อยากเห็นการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่สิ่งที่ท่านนายกฯ และคนในรัฐบาลกำลังทำอยู่ขณะนี้ด้วยการดูด ส.ส. เพื่อสืบทอดอำนาจไม่ใช่การเมืองแบบใหม่ อย่างที่ท่านนายกฯ เคยพูดไว้อย่างแน่นอน แต่เป็นการเมืองแบบเก่าย้อนยุคเหมือนในอดีตที่ทหารยึดอำนาจด้วยการปฏิวัติรัฐประหารแล้วต้องการสืบทอดอำนาจก่อตั้งพรรคการเมืองดูด ส.ส. มาหนุนตนเองให้เป็นใหญ่ต่อไป เหมือนกับยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็มี พรรคเสรีมนังคศิลา ยุคจอมพลถนอม กิตติขจร ก็มีพรรคสหประชาไทย ยุค พล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็มีพรรคสามัคคีธรรม วันนี้ มาถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหาร ก็ยังทำการเมืองแบบเก่า เพื่อสืบทอดอำนาจ แถมยังมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอีกด้วย การดูด ส.ส. เพื่อต่อท่ออำนาจย่อมไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมืองไทย และระบอบประชาธิปไตยโดยรวมอย่างที่ท่านนายกฯ เคยพูดไว้แต่อย่างใด แต่จะกลายเป็นปมปัญหาต่อการพัฒนาระบบประชาธิปไตย และขยายปัญหาให้เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคตอีกด้วย” นายองอาจ กล่าว