รองนายกฯ บรรยายเทียบผู้ตรวจการฯ เป็นเครื่องเอกซเรย์ครอบจักรวาล แนะบูรณาการงานกับหน่วยงานรัฐ เชื่อเรื่องร้องเรียนหลั่งไหล
วันนี้ (25 เม.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ผู้ตรวจการแผ่นดินกับภาครัฐ : บทบาทเชิงบูรณาการเพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลของแผ่นดิน ในงานสัมมนาของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรตรวจสอบ มีหน้าที่ตรวจสอบกระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสากิจ องค์การมหาชน มีบทบาทต่างจากองค์กรอิสระอื่นทั้ง สตง., ป.ป.ช., กกต., กสม. ที่โน้มเอียงไปในทางจับผิดเหมือนเครื่องเอกซเรย์ แต่ผู้ตรวจการฯ ถูกวางไว้แปลกประหลาดที่เป็นเครื่องเอกซเรย์อีก 1 เครื่อง แต่เพื่อตรวจสอบทุกอย่างทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่ไม่มีองค์กรใดตรวจสอบก็ยกให้ผู้ตรวจฯ แต่หน้าที่สั้นๆ คือตรวจสอบธรรมาภิบาลหรือหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตรวจสอบความโปร่งใส ความรับผิดรับชอบ การมีส่วนร่วม คุ้มทุน ประหยัด ซื่อสัตย์สุจริต บทบาทถูกผู้ตรวจการฯ ถูกฝากผีฝากไข้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 230 ในกฎหมายลูกผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมทั้งต้องขจัดเหลื่อมล้ำ อำนวยความสะดวกประชาชน อำนวยประโยชน์ เท่าเทียมกัน จุดหมายปลายทางของการทำงาน ทำให้ผู้ตรวจการมีอำนาจ หน้าที่ ติดอาวุธ โดยอาวุธที่สำคัญของผู้ตรวจการฯ คือ หากหน่วยงานรัฐไม่ปฏิบัติ ให้ถือว่าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ผู้ตรวจฯ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีต่อไป หนักกว่ามาตรา 157
นายวิษณุยังเชื่อว่า บทบาทหน้าที่เพิ่มขึ้นของผู้ตรวจฯ จะทำให้เรื่องร้องเรียนหลั่งไหลเข้ามา จึงต้องตั้งปราการด่านกรองให้ดีว่าอะไรเป็นขยะ อะไรมีคุณค่า ควรทำไม่ควรทำ มิฉะนั้นงานจะหนัก ต้องมีทรัพยากรบุคคล จึงจำเป็นต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่นของรัฐ กระทรวง ทบวง กรม ภูมิภาค ท้องถิ่น มหาวิทยาลัย เป็นต้น
