“อภิสิทธิ์” ไม่แน่ใจ “ป๋าเหนาะ” ฝันแม่นเรื่องทักษิณได้กลับไทย มีรัฐบาลแห่งชาติ ชี้มีทางเลือกอื่นหลากหลาย
วันนี้ (5 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พูดเรื่องความฝันโดยฝันถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าได้กลับมาอยู่ประเทศไทย และบอกว่าตนฝันแม่นว่า ตนไม่ค่อยฝันเรื่องแบบนี้จึงไม่ทราบ เพราะว่าปกตินายเสนาะไม่ได้เล่าให้ตนฟังว่าท่านฝันว่าอะไรบ้าง แต่ที่ได้เล่าผ่านสื่อก็คือการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยบอกว่า ประเทศไทยไม่มีทางออกใดให้บ้านเมืองราบรื่นนอกจากตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนเคยพูดเรื่องนี้บ่อยว่ารูปแบบวิธีการอะไรต่างๆ จะเป็นอย่างไร เพราะทุกคนก็ยังมีความกังวลเรื่องปัญหาความขัดแย้งอยู่ และปรารถนาให้การเมืองที่เดินไปข้างหน้าได้
อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า แต่ว่ารูปแบบวิธีการก็มีความคิดที่หลากหลายกันไป บางคนก็อาจจะคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ แต่บางคนก็อาจจะคิดว่ามันมีวิธีอื่นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปทำคณะกรรมการปรองดองอะไรทำนองนี้ รวมถึงเรื่องสัญญาประชาคม แต่ละคนก็อาจจะมีความคิดที่แตกต่างหลากหลายว่า เราจะเดินไปข้างหน้าไม่ให้ขัดแย้งได้อย่างไร
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงเรื่องที่ตอนนี้สื่อให้ความสนใจนายพริษฐ์ วัชระสินธุ์ หลานชายในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ว่า คนเขาไม่ได้สนใจเพราะนายพริษฐ์เป็นหลานตน แต่เขาก็ได้เคยมาฝึกอยู่ในโครงการฝึกงานเยาวชนของพรรคฯ เป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ระยะหลังเมื่อเขาไปทำงานต่างประเทศกลับมาเขาก็ได้ลองเข้ามาดูว่าจะช่วยอะไรพรรคฯ ได้แค่ไหน ขณะเดียวกันก็มาดูว่าพรรคฯ เป็นอย่างไรด้วย เพราะเจ้าตัวเขาก็ให้สัมภาษณ์เองว่าบางเรื่องที่พรรคฯ ทำไปก่อนหน้านี้เขาก็อาจจะไม่เห็นด้วย แต่ว่าพอเขาเข้ามาพูดคุยกับพวกเรา เขาก็มีความมั่นใจมากขึ้น พร้อมที่จะไปผลักดันในแง่ของการที่ยืนยันอุดมการณ์ แต่ต้องมีส่วนในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องภายใน ทั้งเรื่องภายนอกพรรคฯ นายพริษฐ์ได้ไปแสดงความคิดเห็นตามเวทีต่างๆ และตนก็จะบอกว่าคนรุ่นใหม่ในพรรคไม่ได้มีแค่นายพริษฐ์คนเดียว เนื่องจากในระยะเวลาต่อไปนี้นายพริษฐ์ก็ต้องเข้าค่ายทหาร ไปทำหน้าที่ตรงนั้นให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงความคืบหน้าในการยืนยันสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนได้เจรจากับธนาคารไทยพาณิชย์หลังจากที่ไปประชุมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า อย่างน้อยลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์จะสามารถโอนเงินค่าบำรุงพรรคทางเอทีเอ็มได้ และหลังจากนั้นหลังช่วงสงกรานต์ก็จะใช้ระบบคิวอาร์เพย์ได้เลย พรรคประชาธิปัตย์เองที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ก็ต้องมาปรับปรุงตัวเอง ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ขณะนี้เมื่อได้กำลังจากคนอีกรุ่นเข้ามาช่วยผลักดันก็ยิ่งทำให้มีความคึกคัก มีความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แล้วคงจะต้องดูกันว่าที่แข่งขันกับตัวเองนั้นใครจะทำได้ดีกว่ากัน
