“สุภิญญา” เตือนใช้ ม.44 อุ้มพักหนี้ทีวีดิจิทัล ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยใช้อำนาจรัฐทุจริตเชิงนโยบาย แนะให้ กสทช. กำกับเอง ย้อนทีวีดิจิทัลขาดทุนเพราะรัฐประหาร แทรกแซงลิดรอนสิทธิ จนปชช.เบื่อหนีไปดูมือถือ
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. เป็นประธาน จะใช้ ม.44 เพื่อพักชำระหนี้ให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเป็นเวลา 3 ปี ว่า ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยในการใช้อำนาจรัฐทุจริตในเชิงนโยบายได้ สิ่งที่ กสทช. จะทำได้ในขณะนี้ จะต้องให้ กสทช. เข้าไปช่วยเหลือหรือกำกับการบริการของ กสทช. เอง ไม่ใช่กลับไปแก้ไขสัญญาหรือข้อกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบทเรียนที่ทำให้รัฐบาลยุคก่อนๆ อยู่ไม่ได้มาแล้ว
อดีต กสทช. กล่าวว่า ในส่วนของทีวีดิจิทัลนั้น สาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด คือ การรัฐประหารของ คสช. ที่เข้ามาในช่วงแรกนั้นก็สั่งปิดทีวีทุกช่อง อีกทั้งเมื่อ คสช. เข้ามาบริหารประเทศก็ใช้ช่องทางทีวีดิจิทัลในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ยังไม่รวมถึงการเบียดเบียนช่วงเวลาในทีวีโดยอ้างในนามของความมั่นคง ซึ่งทั้งหมดก็พอจะเป็นเหตุผลได้ที่ว่าทำไม คสช. จะต้องเข้ามาเยียวยาทีวีดิจิตอล
“เมื่อรัฐใช้เหตุผลความมั่นคงในการเข้ามาแทรกแซงผู้ประกอบการ จนส่งผลให้ผลกำไรทางรายได้นั้นลดลง ทาง คสช. ก็จะต้องเข้ามาเยียวยาโดยที่ปฏิเสธไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากทาง กสทช. ต้องการจะช่วยเหลือจริงๆ นั้น ทาง กสทช. ก็จะต้องปรับในด้านค่าเช่าโครงข่าย ให้ยึดหลักความจริงตามต้นทุนมากกว่าที่จะหวังแต่ผลกำไร”
น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 - 4 ปีที่ คสช. เข้ามานั้น ยังไม่การเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีที่ได้รับผลกระทบจากการที่ คสช. มาใช้ผลประโยชน์ จนทำให้ช่องทีวีหลายๆ ช่องนั้นถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ส่งผลให้ประชาชนเบื่อหน่ายกับการดูทีวีและหันไปเสพข้อมูลผ่านช่องทางมือถือมากขึ้น ถือว่าปัญหาการขาดทุนนั้นมาจาก คสช.