หัวหน้า ปชป.เตรียมเดินหน้าให้สมาชิก 2.5 ล้านคนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน แม้มีเวลาดำเนินการจริงเพียงแค่ 17 วัน ระบุยังไม่มีสัญญาณสมาชิกคนใดแยกตัว ส่วน “ธานี” ขาดเป็นสมาชิกไปแล้ว จี้ คสช.เร่งแก้คำสั่ง 53/60
วันนี้ (28 มี.ค.) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมือง ว่าขอบคุณที่ กกต.มีความชัดเจนว่าไม่ต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านประกอบการยืนยันสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการชำระเงิน เพราะมีการตีความไม่เหมือนกัน ตั้งแต่เรื่องการใช้เงินสด เช็ค รวมถึงการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังเป็นปัญหา เพราะทางธนาคารชี้แจงว่าจะกระทำได้ต้องมีมติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่คำสั่ง คสช.ยังไม่อนุญาตให้ประชุมได้ ซึ่งการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เม.ย.นี้และมีเวลาเพียง 30 วันเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วมีเวลาเพียง 17 วันทำการเท่านั้น ถือเป็นอุปสรรคพอสมควร แต่พรรคก็ต้องทำตามกฎหมาย และพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิก
ส่วนคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 กำหนดว่าให้สมาชิกพ้นสภาพหากไม่ได้ยืนยันสถานะต่อหัวหน้าพรรคการเมืองภายใน 30 วัน นายอภิสิทธิ์ชี้ว่า ยังมีปัญหาในกรณีสมาชิกที่ยืนยันสถานะแล้วแต่ไม่พร้อมจ่ายค่าบำรุงพรรคการเมืองจะถือว่าพ้นความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไปด้วยหรือไม่ เพราะคำสั่งไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์เดิมที่ให้สมาชิกพรรคการเมืองสามารถรักษาสถานะต่อไปได้ถึง 4 ปี แม้ยังไม่จ่ายค่าบำรุงพรรคก็ตาม แต่หาก กกต.ชี้ว่าคนที่ไม่จ่ายค่าบำรุงพรรคการเมืองต้องพ้นสมาชิกภาพหลังจาก 30 วันนี้ คงไม่มีประโยชน์ที่จะเขียนเงื่อนไขให้สมาชิกรักษาสถานภาพต่อไปได้อีก 4 ปี
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังทักท้วงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่ให้หัวหน้าพรรคลงนามรับรองคุณสมบัติสมาชิกพรรค เพราะนอกจากตัวบุคคลสมาชิกพรรคเองหรือหน่วยงานรัฐ หัวหน้าพรรคไม่สามารถรับรู้ได้ว่าสมาชิกพรรคมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายระบุไว้ จึงควรเป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐและกกต.ประสานข้อมูล กันเพื่อตรวจสอบในบัญชีสมาชิกพรรคการเมือง หากใครไม่เป็นไปตามเงื่อนไขให้คัดชื่อออกไป เพราะเป็นไปไม่ได้ที่หัวหน้าพรรคการเมืองจะตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมืองทั้งหมด และจะมีการกล่าวหาได้ว่าแจ้งข้อมูลเท็จและทำให้มีปัญหาทางกฎหมายอีก
ส่วนแนวทางที่ กกต.เสนอให้ คสช.พิจารณาแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 นายอภิสิทธิ์บอกว่า บางเรื่องมีประเด็นต้องแก้ไขอยู่แล้ว เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติได้ เช่น คำสั่งมีผลให้ยุบสาขาพรรคการเมือง แต่การจะตั้งสาขาพรรคการเมืองได้ต้องทำโดยที่ประชุมใหญ่ แต่กฎหมายก็บอกว่าการจะประชุมใหญ่ต้องมีสาขาพรรคการเมืองซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขเพราะปฏิบัติไม่ได้ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รอบคอบ
เมื่อถามว่า ควรแก้ไขคำสั่ง คสช.ก่อนวันที่ 1 เม.ย.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์บอกว่า เรื่องเร่งด่วนที่ควรแก้ไข คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันสมาชิกพรรคการเมือง ส่วนตัวมีความเห็นว่าไม่มีกระบวนการนี้ตั้งแต่แรก เพราะคนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองอยู่แล้ว หากไม่ประสงค์เป็นสมาชิกต่อ สามารถลาออกได้ กระบวนนี้จึงไม่ค่อยมีเหตุผล จนทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว
นายอภภิสิทธิ์ยังชี้แจงเกี่ยวกับความพร้อมของอดีต ส.ส.พรรค ว่าส่วนใหญ่จะมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคในวันแรกๆ อยู่แล้ว เว้นแต่บางคนที่ไปบวชซึ่งถือว่าขาดความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ต้องรอให้ คสช.ปลดล็อกคำสั่งหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมการเมืองก่อน รวมถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย ที่ผ่านมาพรรคเคยขอต่อ คสช.ไปแล้ว แต่ไม่เคยได้รับอนุญาต ดังนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำคือเดินหน้าการยืนยันสมาชิกให้ครบ 2 ล้าน 5 คนในเวลา 30 วัน
นายอภิสิทธิ์บอกด้วยว่า ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ เพราะมีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่ทราบว่าต้องยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ขณะที่ คสช.กับ กกต.ระบุว่าให้พรรคการเมืองสื่อสารกับสมาชิกได้ แต่ไม่ให้ประชาสัมพันธ์ จึงถือว่าไม่เป็นธรรมกับสมาชิกที่ต้องเสียสภาพไปเพราะไม่ได้รับรู้
สำหรับอดีต ส.ส.ที่จะแยกตัวหรือไม่ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์บอกว่า ยังไม่มีสัญญาณจากสมาชิกคนใด นอกจากนายธานี เทือกสุบรรณ ที่ให้ข่าวว่าจะไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ และนายธานีได้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้วตั้งแต่บวช