โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย ครม. อนุมัติ เทงบเพิ่มกว่าพันล้าน หลัง ก.เกษตรฯ ขอขยายเวลาโครงการปลูกข้าวโพดสัตว์ พร้อมไฟเขียวอนุมัติจ่ายค่าจ้างลูกจ้างประมงเป็นรายเดือนตามหลักเกณฑ์ค่าแรงขั้นต่ำ พร้อมให้นายจ้างเปิดบัญชีโอนเงินเข้าบัญชีลูกจ้าง มีผลหลังกฎกระทรวงประกาศใช้ 45 วัน
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอเสนอทบทวนมติ ครม. เพื่อขอขยายเวลาโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้งหลังนาปี โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ ก.ค. 2560 - มิ.ย. 2561 มีหลักการให้เกษตรกรในพื้นที่ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ กลาง อีสาน ตะวันตก และตะวันออก ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าว เนื่องจากสภาพพื้นดิน และน้ำไม่เหมาะสม โดยรัฐบาลจะอุดหนุนให้ในอัตราไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ ทั้งหมดจำนวน 7 แสนไร่
“ทางกระทรวงเกษตรฯ ขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการออกไป เนื่องจากปัจจุบันเพิ่งดำเนินการได้ 6 แสนไร่ และขอปรับเปลี่ยนจังหวัดดำเนินโครงการ จาก จ.อุดรธานี และ จ.ลพบุรี เปลี่ยนเป็นจ.หนองคาย และ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากสภาพความเหมาะสมของพื้นที่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ขอใช้งบประมาณในการดำเนินการครั้งนี้ 1,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบกลางปี 2561 และมีงบดำเนินงาน 21 ล้านบาท” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ ยังกล่าวว่า ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล ที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานให้เบ็ดเสร็จ โดยร่างดังกล่าวได้มีการกำหนดค่าจ้าง เดิมการจ่ายค่าจ้างแรงงานประมงทะเลมีการจ่ายเป็นรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือน หรือเป็นอย่างอื่นแล้วแต่นายจ้าง แต่ในครั้งนี้ต้องการให้แรงงานประมงมีรายได้ชัดเจน จึงกำหนดให้มีการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือน โดยลูกจ้างแรงงานประมงจะได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามที่คณะกรรมการค่าจ้างประกาศกำหนดไว้ โดยคูณด้วย 30 วันเพื่อจ่ายเป็นรายเดือน ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างการทำงานในวันหยุดที่เป็นวันนักขัตฤกษ์ผ่านบัญชีธนาคารของลูกจ้าง โดยนายจ้างต้องออกค่าใช้จ่ายในการโอนเงินเข้าบัญชีลูกจ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบได้ไม่ให้เกิดการโกงค่าแรงในวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ และกำหนดให้นายจ้างที่ทำการประมงในทะเลนอกน่านน้ำไทยจัดให้มีอุปกรณ์สื่อสารให้ลูกจ้างแรงงานประมงติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หรือบุคคลภายในครอบครัวได้ในระหว่างที่ออกทะเล ซึ่งเป็นวิธีการที่รัฐบาลต้องการไม่ให้แรงงานประมงถูกกดขี่ข่มเหง สามารถที่บอกเรื่องราวเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่และครอบครัวได้ ทั้งนี้ทุกกรณีมีผลบังคับใช้หลังประกาศร่างกฎกระทรวง ยกเว้นในกรณีการจ่ายค่าจ้างในวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้มีผลหลังประกาศแล้ว 45 วัน เพื่อให้นายจ้างมีเวลาตระเตรียมเรื่องการเปิดบัญชีลูกจ้างให้ทันตามกำหนดเวลา