“มีชัย” ระบุนายกฯ-สนช.ยื่นศาลตีความ กม.ส.ส.ได้ แนะขอเร่งวินิจฉัย ปัดชงเด้ง “สมชัย”

ประธาน กรธ.มอง “ประยุทธ์-สนช.” ยื่นให้ศาล รธน.วินิจฉัยร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ และอาจไม่กระทบโรดแมป หากขอร้องให้วินิจฉัยโดยเร็ว โต้ไม่ได้เป็นฝ่ายขอให้ปลด “สมชัย”

วันนี้ (27 มี.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ชี้แจงถึงกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 145 และ 148 เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าเมื่อร่างกฎหมายลูกไปถึงมือนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยให้รอเวลาไว้ 5 วันก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรี หรือสมาชิก สนช. เข้าชื่อเพื่อให้นายกรัฐมนตรีส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างกฎหมายได้ ส่วนระยะเวลา 20 วันหลังจากนั้นเป็นกรอบเวลาที่ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯได้

นายมีชัยอธิบายต่อว่า แต่ตราบใดนายกรัฐมนตรียังไม่นำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย นายกรัฐมนตรีหรือสมาชิก สนช.ที่เข้าชื่อกัน ตัวอย่างมีสิทธิยื่นร่างกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ แม้จะพ้นช่วงเวลา 5 วันแรกแล้วก็ตาม ไม่ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ทราบว่าช่วงเวลา 5 วันแรกนี้เริ่มนับตั้งแต่วันใด เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยื่นร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะส่งผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายมีชัยบอกว่า จะกระทบหรือไม่ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี แต่ก็อาจจะไม่กระทบก็ได้หากไปขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเร็วขึ้น และหาก กกต.มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งก่อนครบกรอบเวลา 150 วัน นับแต่ร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับบังคับใช้ อาจไม่กระทบต่อโรดแมปก็ได้ การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ แล้วจะส่งผลกระทบต่อโรดแมปหรือไม่ ก็ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

นายมีชัยยังกล่าวถึงกรณีหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากตำแหน่ง กกต.ว่า ในความเห็นของหัวหน้า คสช.อาจจะคิดว่าการใช้อำนาจเป็นไปเพื่อการปฏิรูป การส่งเสริมความสามัคคี หรือรักษาความมั่นคงก็ได้ซึ่งการให้เหตุผลของฝ่ายที่ออกคำสั่งคงเขียนให้เข้ากับจุดประสงค์การใช้มาตรา 44 แล้ว ต้องเป็นการใช้อำนาจตามกรอบ จึงต้องไปดูให้ดี พร้อมยืนยันว่าตนเองและ กรธ.ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ปรึกษากฎหมายตามที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นฝ่ายที่ขอให้ปลดนายสมชัย

ส่วนจะเกิดผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระที่เหลือหรือไม่นั้น นายมีชัยบอกว่า ให้ไปถามคนที่เกี่ยวข้อง และแน่นอนว่าตนเองไม่ได้เป็นคนเสนอให้ปลดนายสมชัย ส่วนจะถือเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่นั้น ตนเองไม่ได้เป็นคนชี้ขาด

สำหรับกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ชี้ว่ายังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 150 วัน หลังร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับบังคับใช้ ว่าหมายถึงเฉพาะวันเลือกตั้งหรือรวมถึงวันประกาศผลด้วย อาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้นั้น นายมีชัยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ โดยระบุว่าให้ไปถาม กกต. เพราะเรื่องนี้มีบางคนพูดไว้แล้ว เดี๋ยวไปทะเลาะกันอีก