xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ย้ำไทยนิยมไม่ใช่หาเสียง ปชต.ต้องไม่ทิ้งเสียงส่วนน้อย ขออย่ามีเรื่องไม่ดีรัชกาลนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ยันไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่โครงการหาเสียง แจง ปชต.ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ไม่ทิ้งส่วนน้อย วอนประชาชน รัชกาลนี้ต้องไม่มีเรื่องไม่ดี แนะใครชวนไปประท้วงหน้าทำเนียบฯ อย่าไป

วันนี้ (22มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักอินทรีย์ โพธิ์ศรีสำราญ ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวว่า เรามุ่งหวังเป็นธนาคารอาหารโลก แต่ประเทศอื่นเขาก็เตรียมตัวเหมือนกัน อย่างจีน เวียดนาม ก็ปลูกข้าวในประเทศมากขึ้นแข่งกับเรา ของเรามีข้าวลดน้ำตาล กข.43 ที่น่าจะขายได้ดีขึ้นจะได้ขายพวกคนรวย

“ส่วนใหญ่คนรวยจะเป็นโรคเบาหวาน ของเราส่วนใหญ่เป็นโรคอื่น โรคหัวใจโรคอ่อนแรง โรคไม่มีตังค์ ผมก็เป็นนะ ต่อไปนี้นายกฯ ไม่ได้ใช้ตังค์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องการเงิน วันๆ ไม่ได้ไปไหนเลย มานั่งทำงาน พวกเราทุกคนตั้งใจทำงานหมดเลย นายกฯ ก็คอยดูว่าใครไม่ทำ ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลจะเข้ามาดำเนินการด้วยโครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่โครงการหาเสียงของตน เราเดินหน้ามาเป็นระยะ วันนี้ลงมาทุกหมู่บ้าน ผ่านการทำงานของคณะกรรมการชุดต่างๆ ผ่านการเฝ้าดูของประชาชน ผ่านความต้องการของทุกคนว่า ส่วนใหญ่ต้องการอะไรก็ทำอันนั้น หลายอย่างเกี่ยวกับอาชีพ การสร้างถนนหนทาง จะแยกงบประมาณออกมาดูว่าส่วนใดจะใช้งบจากไหน กระทรวงมหาดไทยกำลังพิจารณาอยู่ ประชาชนต้องใช้ประโยชน์ อย่าให้ใครเขามาโกง ใครโกงขอให้แจ้งมา อย่างไรก็ตาม การทำประชาคมถ้าส่วนใหญ่เขาต้องการสิ่งนี้ ส่วนน้อยต้องยอมรับ ไม่ใช่ฟ้องว่ามีทุจริต

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องหลักคิดที่ถูกต้อง ประชาธิปไตยไทยควรจะเป็นอย่างไร ควรจะเป็นประชาธิปไตยที่ดูแลทุกคนหรือไม่ ส.ส.ที่มาจากทุกพื้นที่ทุกจังหวัดมาจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งเป็นธรรมดามีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายไหนเป็นรัฐบาลเขาก็ลงพื้นที่ของเขา ใครเป็นฝ่ายค้านไม่ค่อยได้ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะได้ตลอดไป ไม่ได้ มันต้องนึกถึงคนอื่นเขาด้วย เพราะฉะนั้น ต้องมีรัฐบาลที่ทำแบบนี้ คือลงมาทุกพื้นที่ทุกจังหวัด จังหวัดไหนลำบากมากต้องดูแลมาก อย่างรัฐบาลนี้ก็ดูแลหนองบัวลำภูเป็นหนองบัวลำภูโมเดล เหมือนกาฬสินธุ์โมเดล

“ประชาธิปไตยต้องเป็นแบบนี้ ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องไม่ทิ้งเสียงส่วนน้อย ใครเป็นรัฐบาลต้องไม่ทิ้งฝ่ายค้าน เพราะเขามีประชาชนที่จะต้องดูแลเหมือนกัน รัฐบาลนี้คิดแบบนี้ จะได้มั่นคงเสียที ไม่ต้องไปกลัวใครฝ่ายไหนจะได้ไม่ได้เป็นบุญคุณกันตลอดไป ไม่ได้อะไรขึ้นมาใหม่ ก็ได้เหมือนเดิม วันหน้าน่าจะดีขึ้น” นายกฯ กล่าว

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวแซวประชาชนว่า หลายคนวันนี้ง่วงแล้ว ดูละครมากไปหรือเปล่า ตนก็พูดตลกไปเรื่อย แต่สื่อไม่เคยตลกกับตน แต่ส่วนใหญ่ก็รักนะ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย บัตรสวัสดิการผู้สูงอายุ เรากำลังเป็นสังคมผู้สูงวัย คนอายุเกิน 60 จะมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อง สาธารณสุขเราทำได้ดีพอสมควร อายุยืนมากขึ้น แต่ก็ยังถือเป็นภาระที่สังคมต้องช่วยกันดูแล เพราะเราเป็นสังคมที่ไม่ทิ้งพ่อแม่ และปัญหาวันนี้คือพ่อแม่ก็ยังไม่ทิ้งลูก เพราะลูกยังไม่เข้มแข็ง ไปทำงานสงกรานต์กลับมาเอาเงินแม่ แล้วยังแบกข้าวสารกลับไปอีก นี่คือสังคมไทยมันเป็นอย่างนี้อยู่ วันหน้าเขาต้องเอามา ตนดูอย่างจีนผ่านโทรทัศน์ ลูกไปทำงานในเมือง1ปี ต้องอดมาก เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เอาไว้รอกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน ซื้อของ เอาเงินไปให้พ่อแม่ อย่างไรก็ตาม รายได้ประชากรใน จ.หนองบัวลำภูเฉลี่ย 41,000 บาทต่อคนต่อปี ต่ำที่สุดในประเทศ ถือว่าน้อยเกินไป ต้องมากกว่านี้ รัฐบาลกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีรายได้ที่เพียงพอ

“ทุกคนอยากจะได้เงินกู้ใหม่ แต่เงินกู้เก่ายังไม่ได้ใช้ เขาก็กลัวเรากู้เงินใหม่แล้วไม่ใช้เขาอีก เพราะฉะนั้นก่อนจะกู้เตรียมการให้พร้อม รอเข้มแข็งแล้วเราจะกู้ ทำอย่างที่ผมว่า ไทยนิยมยั่งยืนทำให้ได้ก่อนแล้วกัน กู้เอามาลงทุนอย่าไปทำอย่างอื่นเดี๋ยวก็หมดอีก” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คำถาม 10 ข้อที่ตนถามประชาชนมีคนตอบแล้ว 1.5 ล้านคน ล้วนแต่เป็นคนที่จบการศึกษาชั้น ป.4 ทั้งสิ้น แต่คนที่จบการศึกษาสูงไม่ค่อยมาตอบ ภาคเกษตรเสียส่วนใหญ่ และเข้าใจว่าต้องการประชาธิปไตยอย่างไร ตนต้องการฟังพวกเรา มันจะได้ตรงกันเสียที ปรับตรงกลางให้มาเจอกันให้ประโยชน์กลับสู่ประชาชนให้มากที่สุด

“ผมอยากให้ครอบครัวของหนองบัวลำภูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สร้างงานสร้างอาชีพให้ลูกหลานกลับมา ทำการเกษตรที่มีรายได้สูงขึ้น ทำโอทอปหรืออะไรให้มันดีขึ้น จะได้ไม่ห่างใกล้กันความอบอุ่นมันหายไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศชื่นชมประเทศไทย แต่เขาถามว่าทำไมประเทศไทยวุ่นวายกันนัก ประเทศอื่นเขาส่งคนไปสำรวจจะไปอยู่โลกไหนกันแล้วถ้าโลกนี้อยู่ไม่ได้ เขาเตรียมการแล้ว แต่ประเทศไทยยังเริ่มต้นประชาธิปไตยเปาะแปะๆ อยู่ กี่ปีมาแล้ว ประชาธิปไตยมาจากประชาชนชาวไทย ไม่ใช่ประชาชนกลุ่มนี้ๆ เป็นปวงชนชาวไทยทุกกลุ่มทั้งหมด ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ 200 กว่ามาตรา ท้ายสุดต้องไปดูพระราชบัญญัติต่างๆ แต่นี่เอารัฐธรรมนูญมาทะเลาะกันอย่างเดียวไม่ได้ กฎหมายลูกมีเป็นร้อยเป็นพัน

“อย่าให้ใครมาปลุกปั่น ไปประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาล อย่าไปเลยเสียเวลาเสียเงินเสียทอง อยู่บ้านนอน มีอะไรส่งศูนย์ดำรงธรรม ผมแก้ให้หมด แก้มากแก้น้อย แก้เร็ว แก้ช้า ก็ว่าไปตามกลไก อย่าไปประท้วง อย่าให้ใครเขาปลุกปั่นอีกเลย ไม่เกิดประโยชน์กับท่านหรอก คนอื่นเขาเดือดร้อนไม่ได้ ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ ได้กล่าวอยู่ได้หันไปถามประชาชนว่า “เคยไปทำเนียบฯ หรือเปล่า ไปประท้วง” ก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า “ใครเขาชวนอย่าไปอีกเลย ไปแล้วอันตราย วันหน้าอย่าให้เกิดอีกนะ รัชกาลนี้ต้องไม่มีนะ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงทอดพระเนตรอยู่ ท่านทรงทำไว้เยอะแยะแล้ว รัชกาลนี้ต้องไม่มีเรื่องที่มันไม่ดีเกิดขึ้นอีก เราต้องทำให้สิ่งดีๆ ร่วมกัน เพื่อลูกหลานในอนาคต เราเดี๋ยวก็แก่ตาย ผม 64 เข้าไปแล้ว วันนี้ถือว่ามาให้ของขวัญวันเกิดตัวเอง คือการมาเจอพวกเรา ผมต้องการของขวัญจากท่านคือความร่วมมือร่วมใจเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ใครเคยโกรธเกลียดกันเลิกโกรธเลิกทะเลาะกัน ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย หาส่วนดีเขาให้เจอแล้วคบเขาให้ได้ เขาจะได้ดีขึ้น”

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องทุจริตอย่าให้เกิดขึ้น เราต้องสนใจสิทธิประโยชน์ของตัวเอง ส่วนเรื่องที่กำลังตรวจสอบอยู่ เช่นโครงการเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรณีอื่นๆ ติดคุกหมด รวมถึงโทษทางวินัย อาญา และแพ่ง กฎหมายมีอยู่แล้ว รัฐบาลนี้เข้ามาทำไม่ได้เร็วนัก เพราะต้องให้ความเป็นธรรมไม่ใช้อำนาจพิเศษลงโทษเขา ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น