“ประยุทธ์” พบปะชาวหนองบัวลำภู บอกเป็นนายกฯ ถอดหัวโขนแล้วก็คือ ปชช.คนหนึ่ง โว รบ.เข้ามาแก้เรื่องร้องเรียนให้แล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จากกว่าล้านเรื่อง พร้อมยกปมทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง เกิดจากต่างคนต่างยอม กับอีกพวกที่ไม่สนใจรู้สิทธิตัวเอง
วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักอินทรีย์ โพธิ์ศรีสำราญ ต.หัวนา อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เป็นประธานสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูในชุมชนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่ผู้แทนประชาชน พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย โดยเมื่อนายกฯมาถึงประชาชนที่มารอต้อนรับ ได้ผูกผ้าขาวม้าให้กับนายกฯและคณะ พร้อมเข้าสวมกอด
ขณะที่นายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนเห็นหน้าตาทุกคนแล้วมีความสุข ถึงแม้จะมีรายได้น้อยที่สุดในประเทศก็ยังมีความสุข มีรอยยิ้ม จึงเป็นสิ่งที่ตนต้องทำมากขึ้น ให้สมกับที่ทุกคนมารอรับตนวันนี้ อะไรที่ทำให้พวกเราต้องลำบากและเดือดร้อนที่ผ่านมาตนขอรับเพียงผู้เดียว ทั้งเรื่องการจัดระเบียบต่างๆ ในการมารับตนวันนี้ ต้องขอโทษทุกคนด้วยเพราะต้นเหตุคือตน แต่ก็ไม่อยากให้จัดต้อนรับอะไร เพราะทุกคนก็คือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ พอถอดหัวโขนออกก็คือประชาชน และเราไม่ควรหวาดระแวงกัน ทั้งข้าราชการและประชาชน
นายกฯ กล่าวว่า อนาคตโลกเปลี่ยนแปลง เรามีการใช้มือถือมากที่สุดในอาเซียน เรื่องการใช้เทคโนโลยีอาจจะมากสุดในโลก แต่เราได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้หรือยัง เวลาพักผ่อนอาจจะดูบุพเพสันนิวาส แต่ก็ต้องหาเวลาหาความรู้จากโทรศัพท์บ้าง รัฐบาลมีเว็บไซต์ให้ข้อมูล เช่น เรื่องพลังงาน ก็อย่ามัวแต่ไปดูเรื่องราวที่ไม่เป็นสาระ ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ทุกคนสนใจหมด เช่น กรณีหวย 30 ล้านบาท ตามอยู่นั่นแหละ และหวยอย่าไปซื้อเยอะ เห็นจ้องรถนายกฯ อยู่เนี่ย ไม่ออกไม่รู้นะ ตนไม่รับผิดชอบด้วย ไม่สนับสนุน ลอตเตอรี่ก็พอสมควร อย่าไปหวังรวยมาก คนเราแล้วแต่โชคลาภ
นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราทำวันนี้ต้องมีนวัตกรรม เช่น ตัดชุดไทย แต่เราจะขายต่างประเทศได้หมดหรือไม่ เราต้องเอามาปรับให้เข้ากับสมัยใหม่ และสิ่งที่ตามมาคือเรื่องการท่องเที่ยว ขณะที่กระแสงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อด้วยละครบุพเพสันนิวาส ทำให้คนสนใจใส่ผ้าไทยซึ่งรัฐบาลสนับสนุน แต่อย่าหาว่ารัฐบาลใช้ประโยชน์จากละคร เพราะอะไรที่ดีก็เอามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอเวลาหน่อย วันนี้ต้องปรับทั้งสองทาง ที่ตนพูดเพื่อทำความเข้าใจประชาชน และต้องปรับการบริหารข้าราชการในการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะวันนี้ตนเป็นรัฐบาลแบบนี้ วันหน้าเป็นรัฐบาลแบบไหนตนไม่รู้ อยู่ที่ประชาชนแล้ว ที่ผ่านมาดีหรือยัง ดีตอนไหน แล้วรัฐบาลนี้ดีหรือยัง แต่มันไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เพราะเป็นการเริ่มต้น และภาษีจากทุกภาคส่วนที่ได้ รัฐบาลจะนำมาจัดสรรให้ทุกคน และอีกหน่อยประชาชนไปติดต่อราชการไม่ต้องเอาสำเนาไป เป็นการอำนวยความสะดวก เพราะบางทีไปเจอ ข้าราชการหน้างอๆทะเลาะกับที่บ้านมาก็มี
นายกฯ กล่าวว่า ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือกฎหมาย ที่ทำให้เกิดความเท่าเทียม เราต้องเคารพกฎหมาย จะไปประท้วงร้องทุกข์ มีกฎหมายทุกตัว ก็ขอให้อยู่ในระเบียบ รัฐบาลนี้รับทุกเรื่อง ที่ผ่านมารับมาแล้วล้านกว่าเรื่อง เฉลี่ยเดือนละ 4-5 พันเรื่อง แก้ไป 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ปัญหาบางอย่างซับซ้อนยังแก้ไม่ได้ เพราะต้องไปแก้กฎหมาย รัฐบาลนี้ทำทั้งหมด ส่งคนไปดูแล เคยมีใครทำไหมแบบนี้ ก่อนหน้านี้ศูนย์ดำรงธรรมเดิมที่เคยมี แต่ไม่เคยทำแบบนี้ ดังนั้นนี้คือช่องทางที่ท่านจะร้องเรียนได้ แต่ก็ขอให้ร้องเรียนแบบมีข้อเท็จจริง บางอย่างอธิบายเข้าใจง่ายแก้จบ
“เรื่องการทุจริตที่เกิดจากต่างคนต่างยอม มีคนได้ประโยชน์เสียประโยชน์ เสียเพื่อต้องการได้ประโยชน์นี่คือกลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มที่ 2 เพราะความไม่รู้สิทธิของตนเอง ไม่รักษาสิทธิ เช่น งบคนไร้ที่พึ่งที่ประชาชนไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่ ดังนั้น ต้องฟังบ้าง วันนี้มีบัตรสิทธิของคนรายได้น้อย หลายคนบอกทำ ทำไมบัตรเสียเวลา เอาเงินมาให้เลยดีกว่า แล้วมันจะได้ซื้อของอย่างนี้หรือไม่ พ่อบ้านฟังไว้นะ อยากได้เป็นจำนวนเงิน แต่แม่บ้านบอกถ้าให้แบบนั้นเขาไม่ได้ เดี๋ยวจะไปใช้เฮฮาเสียมากกว่า วันนี้ต้องการให้ครอบครัวมีข้าวกิน มีของอุปโภคภายในบ้าน พ่อบ้านก็เอาหน่อยน่ะ มีคนเสนอบอกอันนี้ให้โอนบัญชีเมีย สามีก็บอกกลัวเมียเอาไปเล่นหวยอีก” นายกฯ กล่าว