xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” สร้างสัญลักษณ์ “ลูกอีสาน” ปิดจุดอ่อนลุย “แก้จน”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


เผยกำหนดการออกมาชัดเจนแล้วว่า ในวันที่ 22 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงพื้นที่ภาคอีสานอีกรอบ โดยคราวนี้เป้าหมายสำคัญอยู่ที่จังหวัด “หนองบัวลำภู” จังหวัดที่อยู่ในภาคอีสานตอนบน ที่แยกออกมาจังหวัด “อุดรธานี”

ตามกำหนดการดังกล่าวหากพิจารณาจากภาพรวมๆ ก็จะมองออกได้ทันที ว่า เป้าหมายที่ต้องการเน้นมากที่สุด ก็คือ “การแก้จน” แต่คราวนี้ทุ่มลงไปกันแบบ “ครบวงจร” หรือแบบที่ใช้คำว่า “บูรณาการ” และมีเจตนาจะฝังโครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” ให้ลงไปในเนื้อชาวบ้านกันเลยทีเดียว

การลงพื้นที่คราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะขึ้นเวทีร่วมวงกับชาวบ้านเพื่อรับรู้และนำข้อเสนอไปแก้ปัญหารวมไปถึงจัดการกับปัญหาที่มีอยู่ในตอนนั้นเลย เอาเป็นว่างานนี้ “มีความหมาย” สำหรับตัวเขาอย่างมากทีเดียว

หากพิจารณากันตามสภาพพื้นที่ก็รับรู้กันอยู่แล้วว่า “ภาคอีสาน” ที่ผ่านมา มันเหมือนกับพื้นที่ผูกขาดของ เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร แต่คราวนี้ถ้าพิจารณากันมาตั้งแต่ต้นก็ต้องมองออกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องการเข้ามาแย่งชิงมวลชน ซึ่งที่ผ่านมาถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีการจัดการอย่างเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอนมาอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะถ้าให้มองเห็นภาพก็ต้องเริ่มโฟกัสกันมาตั้งแต่ต้นปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “ทีมเศรษฐกิจ” ที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับ “ฐานราก” ทำให้มีหลายโครงการที่โหมลงไป ที่น่าเป็นเนื้อเป็นหนังก็เห็นจะเป็นการ “ต่อยอด” บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือว่า “บัตรคนจน” ที่มีการใช้ “ทีมไทยนิยมยั่งยืน” ลงไปปูพรมมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว กระจายลงไปทั่วทุกหมู่บ้าน ภาพภายนอกอาจมองว่าเป็นการลงไปสำรวจความต้องการ รับรู้ถึงความเดือดร้อนแล้วอยากให้ช่วยเหลืออะไรบ้าง ทั้งเรื่องอบรมให้ความรู้ ยกระดับความเป็นอยู่หางานให้ทำ เรียกว่า ครบวงจร แต่ที่สำคัญยังพ่วงไปด้วยเรื่อง “ความรู้ประชาธิปไตย” ซึ่งอย่างหลังนี่แหละน่าสนใจ เพราะในความหมายประชาธิปไตยมันมีความหมายได้หลายมุม

แน่นอนว่า เมื่อลงไปในทุกพื้นที่แบบนี้มันก็ย่อมต้องมีรายการฝากฝังให้พิจารณากดให้คะแนนรัฐบาล ให้คะแนน คสช. และที่จะลืมไม่ได้ก็คงต้องฝากฝัง “ลุงตู่” ไว้ในอ้อมใจพี่น้องไว้สักคนด้วยก็ได้ใครจะไปรู้ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นไปได้ ที่อาจมาในแบบโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม

แม้ว่าในรายละเอียดนโยบายของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขชื่อใหม่ไม่ใช่คำว่า “ประชานิยม” โดยคำใหม่ที่คุ้นชินกันก็คือ “ประชารัฐ” ที่มีความหมายในทาง “ความร่วมมือ” กันระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ไม่ใช่ตะบี้ตะบันแจก มีการให้นำเสนอโครงการ ฝึกอบรมอาชีพ ฝึกการค้าขาย มองในภาพรวมก็ถือว่าน่าจับตาทีเดียว เพราะจะมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องโดยเลียนแบบวิธีการแก้จนมาจากประเทศจีนที่ทำสำเร็จมาแล้ว

อย่างไรก็ดี นาทีนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใจชาวบ้านระดับรากหญ้าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจาก “บัตรสวัสดิการคนจน” ที่มีการจ่ายเงินส่งไปเข้ากระเป๋าชาวบ้านโดยตรงแบบไม่ต้องผ่านคนกลางให้ตกหล่น ได้กันทุกเดือน

นอกจากนี้ หากพิจารณาจากพิจารณาจากราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ภาคอีสานในปีนี้ถือว่าราคาพุ่งกระฉูด มันก็พอทำให้พี่น้องชาวนาเลิกบ่นถึงโครงการรับจำนำข้าวของ “ครอบครัวทักษิณ” กันลงไปบ้าง

หากพิจารณากันแบบรวบรัดตัดความก็พอจะเห็นภาพแล้วว่าการลงพื้นที่อย่างถี่ยิบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มองในมุมการเมืองมันก็เหมือนกับการทำสงครามแย่งชิงมวลชน เป็นการเร่งโกยแต้มในช่วงที่ยังเบรกบรรดานักการเมืองให้นิ่งอยู่กับที่ ขณะเดียวกัน เมื่อโฟกัสไปที่ภาคอีสานที่ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทั้งในจำนวนมวลชนหรือจำนวน ส.ส. ที่ต้องใช้สำหรับเป็นฐานสนับสนุนที่แม้ว่ายังไม่สรุปแน่ชัดว่าเขาจะเดินในเส้นทางแบบไหน แต่รับรองว่าในอนาคตแล้วมันก็ไม่ทางปฏิเสธได้เลยว่าสำคัญมาก

นอกเหนือจากนี้ ด้วยความเป็น “ลูกอีสาน” ที่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ต้องชูให้เด่น และแม้ว่าเวลาที่เหลืออยู่แบบจำกัด แต่การลงพื้นที่ภาคอีสานเที่ยวนี้มันก็เหมือนกับการ “กระชับฐานมวลชน” และแม้ว่าการแก้ปัญหาความยากจนคงไม่อาจใช้เวลาแต่เพียง 5 - 6 เดือนแต่อย่างน้อยมันก็เหมือนกับการซื้อใจ สร้างความหวังให้กับชาวบ้าน ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่คราวนี้เขาต้อง “จัดเต็ม” โชว์เต็มที่ เพราะนี่คือพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญ!!


กำลังโหลดความคิดเห็น