xs
xsm
sm
md
lg

โพลตบหน้า“ตู่”ไร้น้ำยาปราบโกงพิทักษ์“ป้อม”เหมือนลืม“โคตรนาฬิกาหรู”ไม่ปรากฎในบัญชีทรัพย์สิน **ธาตุแท้ ขรก.!ข้อความ“ทำอย่างไรให้ ปชช.หายโง่”สะท้อนดูแคลน ปชช.เป็นเรื่องปกติ **คนนี้มาแรง!เปิดตัวพรรคไม่กี่วัน“ธนาธร-ปิยบุตร"ติดโผคนอยากให้เป็นนายกฯซะแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าฯขอนแก่น ,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ข่าวปนคน คนปนข่าว

** เสียของแน่นอน!! โพลตบหน้า “ลุงตู่” ไร้น้ำยาปราบโกง สอดรับดัชนีโกง ม.หอการค้า ชี้ 2 ปี คสช.งบฯแผ่นดินเสียหาย 9 แสนล้าน “น้องตู่” สวมวิญญาณผู้พิทักษ์ ป้อง “พี่ป้อม” แค่ใส่นาฬิกาหรู ไม่ได้โกงเงินหลวง เหมือนหลงลืม “โคตรนาฬิกาหรู” ไม่ปรากฎในบัญชีทรัพย์สิน เข้าข่าย “แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จ” ผิดกฎหมายชัด

ตบหน้ากันอย่างแรง .. ผลสำรวจ “ดุสิตโพล” สัปดาห์นี้ขยี้ปมทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการ ประชาชน 57% ไม่เชื่อน้ำยา “รัฐบาลประยุทธ์” จะแก้ปัญหาการทุจริตได้ .. แบบนี้ “เสียของ” ชัดๆ ถึงการโกงในระบบราชการจะฝังรากลึกมานาน แต่อย่าลืม “รัฐบาลลุงตู่” ตั้งปณิธาน “วาระปราบโกง” เป็น “วาระแห่งชาติ“ แล้วก็ยังมีอำนาจล้นมือ-เวลามากกว่าใคร ยังทำอะไรไม่ได้ (หรือไม่ทำอะไร) .. จนตอนนี้สังคมโซเชียลค่อนแคะว่า “ขอขอบคุณ คสช. ที่ทำให้รู้ว่า 4 ปี ที่ไร้นักการเมือง ข้าราชการอย่างเดียวก็โกงประเทศได้มากแล้ว” .. สอดคล้องกับดัชนีคอร์รัปชันไทย เมื่อเดือน ธ.ค.2560 ของ “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” ที่ระบุว่า แค่ช่วง 2 ปีหลังยุค คสช.เรืองอำนาจ มีการทุจริตงบประมาณไปแล้วกว่า 9 แสนล้านบาท .. แล้วก็ไม่รู้ว่า “ไร้น้ำยา” หรือ “ไร้ยางอาย” กันแน่ที่ทำให้การทุจริตไม่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นในช่วงรัฐบาล คสช. .. ที่ว่า “ไร้ยางอาย” ก็อย่างการโกงเงินสงเราะห์ผู้ยากไร้ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯนั่นประไร .. ส่วนที่ว่า “ไร้น้ำยา” ก็เพราะดูเหมือน “ผู้มีอำนาจ” ออกไปในทาง “เลือกปฏิบัติ” เอาจริงในบางเรื่อง มองข้ามในบางเรื่อง โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวกับ “คนใกล้ตัว” .. ไม่ต้องอะไรมาก ปม “นาฬิกาหรู” ที่ปักหลัง “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ คสช.มาตั้งแต่ปลายปีกลาย ในฐานะ “ผู้นำรัฐบาล” ไม่เพียงไม่ดำเนินการใดๆ แล้วยังให้ท้ายกันตลอด .. ทว่า “นายกฯน้องตู่” ยังปกป้องไม่ลืมหูลืมตา ล่าสุดไปพูดกับคนไทยที่ออสเตรเลียประมาณว่า “..บอกว่า ผมรักพี่รักน้อง อันนั้นเป็นอีกเรื่อง เขา (ประวิตร) เอา (นาฬิกา) มาใส่จากไหน ก็ต้องตอบคำถาม ป.ป.ช.เอง ดูแล้วเขาไม่ได้โกงเงินหลวง” .. แบบนี้ “เบี่ยงประเด็น” ชัดๆ เพราะต้องย้ำอีกครั้งว่า ที่ “บิ๊กป้อม” ถูกสังคมเพ่งเล็ง และ ป.ป.ช.กำลังสอบอยู่ในตอนนี้ เป็นเพราะ นาฬิกาหรู 25 เรือนที่สวมใส่ ไม่ปรากฎในบัญชีทรัพย์สิน เข้าข่าย “ปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ-แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเป็นเท็จ” แบบที่หากเป็น “นักการเมือง” ก็โดนเชือดฐานทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.อย่างชัดเจน แต่ “ลุงตู่” บอกให้ “ลดราวาศอก” ท่าเดียว .. ส่วนจะ “โกงเงินหลวง” อย่างที่ “น้องตู่” กางปีกปกป้องหรือไม่นั้น เป็นอีกประเด็นหนึ่ง.

**ธาตุแท้ ขรก.ไทย!! ข้อความ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” โผล่หนังสือตราครุฑ สะท้อนมุมมอง “ขรก.ไทย” ที่ดูแคลน “ประชาชน” เป็นเรื่องปกติ ยิ่งยุคนี้ปลุกปั้น “รัฐข้าราชการ” ยิ่งใหญ่-กร่างคับเมืองไปกันใหญ่ “คนไทย” จะหายโง่ไม่ต้องรู้เท่าทันโลก แค่รู้ทัน “ผู้มีอำนาจ - ข้าราชการไทย” ก็พอแล้ว

ส่วน “คนไทย” จะหายโง่หรือไม่นั้น ไม่ใช่ต้องไปรู้เท่าทัน “โลกที่เปลี่ยนแปลง” อะไรหรอก อยู่ที่รู้เท่าทัน “ผู้มีอำนาจ” หรือรู้เท่าทัน “ข้าราชการไทย” แล้วหรือยังต่างหาก.

คงจะคิดดังไปหน่อย .. ข้อความ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” ก็เลยโผล่ไปอยู่บนหนังสือเชิญประชุมที่เป็น “เอกสารหัวครุฑ” ของทาง จ.ขอนแก่น .. ก่อนจะรู้ตัวหลังเซ็นออกไป 3 วัน ต้องออกหนังสือฉบับใหม่ ปรับแก้เป็น “ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้ความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง” .. ในหนังสือที่มีการแก้ไขใหม่ ระบุด้วยว่า เนื่องจากหนังสือดังกล่าว มีถ้อยคำทีไม่เหมาะสมทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนใน “สาระสำคัญ” .. จากที่ถกเถียงกันว่า “ของปลอม-ของจริง” ด้วยหนังสือไม่น่าหลุดคำแบบนี้ออกมา เมื่อมีการแก้ไขก็เลยเหมือนสารภาพว่า “ของจริง” .. งานนี้ โดนไปเต็มๆ ก็ สุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าฯขอนแก่น ผู้ลงนามในหนังสือฉบับแรกแทนผู้ว่าฯ ออกมาแถลงข่าวด้วยน้ำตาเลยทีเดียว .. ส่วนตัวพ่อเมืองตัวจริง สมศักดิ์ จังตระกูล ที่ไม่ได้เซ็นเอง ก็” แก้เกี้ยว” ด้วยการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง .. ก่อนไปลาก น.ส.พรทิพย์ ขำชื่น หัวหน้าฝ่ายบริการทั่วไป สำนักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.ขอนแก่น ออกมาแสดงความขอโทษว่าเป็นผู้พิมพ์หนังสือ เสมือนจะตัดตอนความผิดให้อยู่แค่ “เจ้าหน้าที่ระดับล่าง” เท่านั้น .. เรื่องแบบนี้ขอโทษไม่น่าหาย ด้วยเป็นการ “ดูแคลนประชาชน” ชัด รอดูว่าที่สุด “ผู้เกี่ยวข้อง” จะถูกลงโทษกันเช่นไร .. อีกแง่มันก็สะท้อนมุมมองของ “ข้าราชการไทย” ที่มีต่อ “ประชาชนไทย” ไม่ใช่น้อย .. ด้วยคำว่า “โง่” ที่ไม่น่ามาปรากฎในหนังสือราชการ มีอย่างที่ไหนผ่านตาคนเป็นสิบยังหลุดออกมาแบบไม่มีใครทัก .. เสมือนมีความคิด “ก้นบึ้ง” อยู่แล้ว เห็นถ้อยคำ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” ก็เลยอาจมองเป็นเรื่องปกติ .. น่าสนใจอีกว่าหนังสือที่ว่า เป็นการเชิญประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรี เสียด้วย ดีไม่ดีไล่ไปไล่มาอาจเป็น “นโยบายส่วนกลาง” ที่สั่งการลงมา “อย่างไม่เป็นสายลักษณ์อักษร” ก็เป็นได้ .. ที่น่ากลัวก็แนวนโยบายของ “รัฐบาลลุงตู่” ตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ยาวไปจนในยุทธศาสตร์ 20 ปี มองไม่ผิดว่า พยายามก่อร่างสร้างเป็นให้เมืองไทยเป็น “รัฐข้าราชการ” อย่างสมบูรณ์แบบ .. เมื่อข้าราชการที่กินภาษีประชาชน กลับดูถูกดูแคลนประชาชนเจ้าของภาษีเยี่ยงนี้ การปลุกปั้น “รัฐข้าราชการ” ให้เข้มแข็งก็น่าหวั่นวิตก .. ไม่ได้หวังให้ “ข้าราชการ” ถึงขนาดทำตัวเป็น “ข้า” เป็น ”บ่าว” แต่ก็ควรให้เกียรติ “ประชาชน” บ้าง ที่ไหนได้กลับทำตัวยิ่งใหญ่คับบ้านเมืองกดหัวประชาชนเสียเอง .. ส่วน “คนไทย” จะหายโง่หรือไม่นั้น ไม่ใช่ต้องไปรู้เท่าทัน “โลกที่เปลี่ยนแปลง” อะไรหรอก อยู่ที่รู้เท่าทัน “ผู้มีอำนาจ” หรือรู้เท่าทัน “ข้าราชการไทย” แล้วหรือยังต่างหาก.

** คนนี้มาแรง!! เปิดตัวพรรคไม่กี่วัน “ธนาธร - ปิยบุตร" ชื่อติดโผคนอยากให้เป็นนายกฯซะแล้ว แถมโพลทวิตเตอร์ก็นำโด่ง สะท้อนคนรุ่นใหม่กำลังเห่อ ทุนแน่นปึ้ก “มาดามสมพร” กดไฟเขียว “ลูกเอก” ลงการเมือง สื่อพร้อมหนุน “ธนาธร” ถือหุ้นเบอร์ 2 เครือมติชนจนเชียร์กันนอกหน้า แถมเครือญาติ “จุฬางกรู” กำลังหาทางยึดช่อง 3 รอมร่อด้วย

ประมาทไม่ได้ .. “พรรคอนาคตใหม่” ของคู่หู “ไพร่เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - “อ.ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ก็เริ่มมีชื่อปรากฎใน “โพลหลัก” บ้างแล้ว .. โดยทั้งคู่มีชื่อใน “นิด้าโพล” หัวข้อบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ “ธนาธร” พรวดไปอยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนน 6.88% ตามหลัง “ประยุทธ์ - สุดารัตน์ - อภิสิทธิ์” .. ส่วน “ปิยบุตร” ตามมาที่ 9 ได้ 1.52% เหนือ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ .. แถมมาแรงสุดโพลทวิตเตอร์ ที่ “คมชัดลึกออนไลน์” ทำขึ้นมีคนโหวต 4,078 คน ส่วนใหญ่ 57% เทใจเลือก “พรรคอนาคตใหม่” ขณะที่ “เพื่อไทย” ได้ 13% “ประชาธิปัตย์” 9% อีก 20% เป็นพรรคอื่นๆ .. จากการนำโด่งในโพลทวิตเตอร์ สะท้อนว่ากลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ เป็น “คนรุ่นใหม่” .. แต่แม้จะเปิดตัวเป็นสีสันน่าจับตามอง แต่อย่างที่รู้ “การเมืองไทย” ไม่มีสูตรสำเร็จ ครั้นจะใช้แค่ “นโยบายโลกสวย” ก็มี “พรรคโลกสวย” เจ๊งให้เห็นมาแล้วนักต่อนัก .. แต่ระดับ “ไพร่เอก” แล้ว นายทุน "นิตยสารฟ้าเดียวกัน" แล้วย่อมไม่ธรรมดา .. อย่างการโพสต์เฟซบุ๊คว่าได้ “ไฟเขียว” จาก “คุณแม่” ให้ลงเล่นการเมืองได้ ก็เหมือนส่งสัญญาณบางอย่างออกมา .. ก็ด้วย “คุณแม่” ก็คือ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งไทยซัมมิต หญิงแกร่งที่ได้ชื่อว่าล่ำซำที่สุดของเมืองไทย แบบนี้ “แบ็คแน่น-ทุนหนา” ชัวร์ป๊าบ .. ส่วน “ธนาธร” เองก็ระดับ “เจ้าสัวหมื่นล้าน” แล้ว ยังเป็น “กรรมการ บมจ.มติชน” ที่ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง รองจาก “เสี่ยช้าง” ขรรค์ชัย บุนปาน .. ดังนั้นไม่แปลกที่ “เครือมติชน” จะเชียร์ออกนอกหน้ากันตั้งแต่ยังไม่ทันตั้งไข่ .. อีกขาหนึ่งก็มีข่าวว่า “ตระกูลจุฬางกูร” ยังไปไล่เก็บหุ้น “ช่อง 3” จนพี่น้อง "ตระกูลมาลีนนท์" ต้องระดมกันตั้งป้อมสู้เพื่อรักษาสัดส่วน 25% เอาไว้ให้ได้ .. ในวงการรู้กันดีว่า "จุฬางกูร - จึงรุ่งเรืองกิจ" เป็น “ไผ่กอเดียวกัน” .. ถ้าปฏิบัติการไล่เก็บหุ้นช่อง 3 ตีป้อมค่ายของ “ตระกูลมาลีนนท์” สำเร็จ ก็เท่ากับ “พรรคอนาคตใหม่” มีสื่อในมือครบวงจรเลยทีเดียว.


กำลังโหลดความคิดเห็น