หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์วอน คสช.ปลดล็อกไฟเขียวให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ชี้ต้องรอดู “ประยุทธ์” ตัดสินใจให้พรรคไหนหนุน ยอมรับโอกาสดึงสมาชิกกลับพรรคไม่ง่ายในเวลาแค่เดือนเดียว จี้ผู้ตรวจการฯ เร่งชี้ปมคำสั่ง 53/60 ขัด รธน.
วันนี้ (9 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้อดีต ส.ส.ภาคใต้ แสดงความจำนงว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งและเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภายในวันที่ 9 มี.ค.ว่า เป็นเรื่องของนายนิพิฏฐ์ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ที่อยากจะสำรวจจำนวนอดีต ส.ส.ในภาคใต้ ทั้งนี้ อดีต ส.ส.ทุกคนก็ต้องมาแสดงตัวเพื่อยืนยันสถานะความเป็นสมาชิกและจ่ายค่าบำรุงพรรคการเมืองต่อหัวหน้าพรรคการเมืองอยู่แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เม.ย.
ส่วนกรณีที่นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.จะจัดตั้งพรรคมวลมหาประชาชนฯ เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของกลุ่ม กปปส.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีใครแสดงความจำนงที่จะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนายธานี จุดยืนต่างกันที่ กปปส.หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องรอดูท่าที เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เองก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะมาเป็นนายกฯ คนนอก และไม่เคยปฏิเสธพรรคการเมืองใดๆ หากจะมีการเสนอชื่อเพื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ามีหลายกลุ่มการเมืองที่กำลังจะจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองและจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯ ต่อไป จะกระทบฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอย่างไร หรือให้พรรคการเมืองใดเสนอชื่อหรือไม่ ส่วนพรรคมวลมหาประชาชนฯ ที่จะเกิดขึ้นจะทำให้ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์น้อยลงหรือไม่ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นมา ประชาธิปัตย์เองก็ต้องทำงานหนักขึ้น
“หลังจากวันที่ 30 เม.ย.หากคนที่เป็นสมาชิกพรรคไม่ยืนยันต่อหัวหน้าพรรค ก็ต้องพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นไป พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าโอกาสที่จะดึงสมาชิกกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพรรคการเมืองยังทำกิจกรรมไม่ได้ และระเบียบต่างๆ ยังเป็นอุปสรรคอยู่ เช่น การถ่ายสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ลงลายมือชื่อ ประกอบการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ประกอบกับระยะเวลาเพียง 30 วัน แต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีกว่า 2 ล้านคน พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็เรียกร้องผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้วว่าคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ที่กำหนดหลักเกณฑ์เหล่านี้อาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าเป็นกฎหมายที่สร้างภาระโดยไม่จำเป็น จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งการพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็ต้องรอจนกว่า คสช.จะปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้จึงจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ส.ว.ทั้ง 250 คนที่จะมีส่วนร่วมเลือกนายกฯ ด้วยนั้น อยากให้ ส.ว.คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งด้วย และยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีการร่วมมือทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ตราบใดที่ยังก้าวข้ามไม่พ้นระบอบทักษิณ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต่อสู้กับระบอบทักษิณมายาวนาน เรื่องนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดวิกฤตมาจนถึงทุกวันนี้
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทักท้วงว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเข้าใจว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และไม่น่าจะกระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้ง เพราะร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีการขยายเวลาบังคับใช้ออกไป 90 วัน