“ไก่อู” แจง ครม.ไฟเขียว พ.ร.ก.แรงงานปรับลดโทษ จ้างต่างด้าวผิดกฎหมายเหลือ 1 หมื่น-1 แสน ห้ามนายจ้างเรียกเก็บค่าใช้จ่ายป้องกันปัญหาค้ามุนษย์ ชี้เก็บหนังสือเดินทางต้องยินยอม
วันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ว่า ครม.เห็นชอบร่างแก้ไขพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 ที่ประกาศใช้แล้วถูกท้วงติงว่ามีโทษรุนแรงจนใช้มาตรา 44 พักการบังคับใช้ใน 4 มาตรา ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยให้ปรับแก้มาตรา 101 ที่กำหนดโทษแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตจากเดิมจำคุก 5 ปี ปรับ 2 หมื่น-1 แสนบาท โดยตัดโทษจำคุกออก เหลือเพียงโทษปรับ 5 พัน-5 หมื่นบาท มาตรา 102 นายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จากโทษปรับเดิมตั้งแต่ 4-8 แสนบาท ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน เหลือ 1 หมื่น-1 แสนบาทต่อคน และใครทำผิดซ้ำซากจะจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5 หมื่น-2 แสนบาท และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี
พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า บทบัญญัติใหม่จะเปลี่ยนระบบอนุญาตในบางเรื่องเป็นระบบแจ้งให้ทราบต่อเจ้าพนักงาน เช่น ในกรณีที่นายจ้างๆแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายทำงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทำงาน รวมถึงยกเลิกประกาศเขตที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว ให้ทำงานที่ไหนพักที่ไหนก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งปรับแก้ตามข้อสังเกตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โทษนายจ้างและลูกจ้างที่เท่ากัน ปรับใหม่ให้ไม่เท่ากันตามความหนักเบา และนายจ้างรับเหมาแรงงานจะทำได้ต่อเมื่อมีใบสั่งจ้างงาน ขณะเดียวกันห้ามนายจ้างเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันต้นเหตุการเอารัดเอาเปรียบ จนเป็นเหตุให้เกิดการค้ามนุษย์ ยกเว้นค่าตรวจสุขภาพ ใบอนุญาต และค่าหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ การเก็บหนังสือเดินทางและใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวต้องได้รับการยินยอม หากแรงงานต่างด้าวขอคืนต้องได้คืนทันที
ทั้งนี้ ในบทเฉพะกาลกำหนดมิให้นำมาตราที่ถูกพักการบังคับใช้มาบังคับใช้จนกว่าจะถึงวันที่ 1 ก.ค.นี้