xs
xsm
sm
md
lg

เสวนาโกงเงินคนจน ชี้ทำเป็นระบบ สตง.แฉแจ้ง รมว.ตั้งแต่ปี 60 แต่นิ่ง ห่วงชุดใหม่ห้ามให้ข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (แฟ้มภาพ)
วงเสวนาตรวจสอบการโกงเงินคนจน ชี้โกงอย่างเป็นระบบสุดเลวร้าย “วัชระ” บี้อายัดเอกสารโกงก่อนถูกทำลาย ด้าน “พิศิษฐ์” เผย สตง.ตรวจพบกลโกงตั้งแต่ปี 60 แจ้ง รมว.พม.แต่ไร้การแก้ปัญหา จนเรื่องฉาวค่อยมีการสั่งย้าย ขรก.ที่เกี่ยวข้อง หวัง สตง.ขยายผลต่อ ห่วงนโยบายผู้บริหารใหม่ห้ามให้ข่าว แถมกฎหมายใหม่ตัดทอนอำนาจ สตง. ทำงานลำบากขึ้น

วันนี้ (2 มี.ค.) คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเสวนา “เวทีประชาชนกล่าวหา-ตรวจสอบการคอร์รัปชัน กรณีโกงเงินคนจน” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีวิทยากร ประกอบด้วย น.ส.ลักษณ์ หุตานุวัตร เครือข่ายวิชาการและประชาชนเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เข้าร่วม

น.ส.สมลักษณ์กล่าวว่า การโกงเงินเป็นส่วนหนึ่งของการโกงทรัพย์คนจน ที่แบ่งได้ 3 ประเภท คือ ทั้งทรัพยากรบนอากาศ หรือเครื่องมือทางการสื่อสาร ทรัพยากรผิวดิน และใต้ดิน เป็นการโกงสามโลกแบบขาดความละอาย ซึ่งเกิดจากการสมรู้ร่วมคิดทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของระบบราชการที่อ่อนแอ และขาดความโปร่งใส ขณะที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้นายทุนมากกว่าคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะความเดือดร้อนจากการทำโครงการที่เกี่ยวกับการห้สัมปทานทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เหมืองแร่

ด้านนายวัชระมองว่า การทุจริตเงินคนจนที่เป็นงบประมาณแผ่นดินปี 2559-2560 วงเงิน 1,200 ล้านบาท ที่ใช้ช่วยเหลือคนยากไร้ และผู้ป่วยโรคเอดส์ ถือเป็นระบบเลวร้ายที่เกิดขึ้นในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีพื้นที่ที่ทุจริตที่สุดแต่ยังไม่ถูกตรวจสอบ คือ ที่นิคมห้วยหลวงจังหวัดอุดรธานี ได้งบประมาณ 30 ล้านบาท และเชียงพิน อีก 15 ล้านบาท รวมถึงอีกหลายพื้นที่ก็ยังไม่มีการตรวจสอบ เช่น ที่เชียงราย เชียงใหม่ และแพร่ เป็นต้น ทั้งนี้ รูปแบบการทุจริต คือ มีการจัดทำลายเซ็นปลอม รวมถึงไม่จ่ายเต็มจำนวน โดยขบวนการทุจริตดำเนินการอย่างเป็นระบบ ข้าราชการที่ช่วยทุจริตจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างไรก็ตามเป็นห่วงว่าเอกสารการโกงจะถูกทำลาย จึงอยากให้มีการยึดไว้ก่อน เพราะมีโอกาสที่จะกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ได้

นายวัชระกล่าวด้วยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2561 ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่สุจริตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นเพียง 2 วัน นายกรัฐมนตรีก็มีคำสั่งย้ายนายพุฒิพัฒน์ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับเรียกร้องให้ สตง.แถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตเงินคนจนด้วย

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ต้องถอดบทเรียนการทุจริตเงินคนจนที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นวงจรอุบาทว์ในการทุจริตซ้ำซาก โดยมีข้อคิดว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตระดับซี 8 ได้เลื่อนเป็นซี 9 แล้วซี 9 ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตได้เลื่อนตำแหน่งเพราะใคร ซึ่ง สตง.เคยตรวจพบว่าในปีงบประมาณ 60 ช่วงสามเดือนแรกมีการใช้เงิน 193 ล้านบาทกระจายไปศูนย์ต่างๆ โดยมีการดำเนินการลักษณะเลือกที่รักมักที่ชังด้วย สตง.จึงตรวจสอบและแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไร้ผลเพราะผู้เกี่ยวข้องอยู่ในตำแหน่ง จึงแจ้งไปยัง รมว.พัฒนาสังคมฯ เพื่อให้ระงับยับยั้งและวางมาตรการป้องกัน แต่ในขณะที่ตนอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ จนเป็นข่าวจึงมีการย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกจากตำแหน่ง เชื่อว่า สตง.จะเร่งขยายผลการตรวจสอบต่อ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องมีคำตอบว่าเสียหายเท่าไหร่ อย่างไร ต้องขยายผลต่อ แต่น่าเสียดายที่ สตง.มีนโยบายไม่ให้ข่าว อีกทั้งมีบทบัญญัติในกฎหมายไม่ให้มีการให้ข่าวในระหว่างการตรวจสอบ และมีการตัดทอนอำนาจ สตง.ในการเรียกเอกสาร หลักฐาน จากหน่วยงานที่มีกฎหมายห้ามเปิดเผย ทำให้การทำงานจะมีปัญหาและอุปสรรคมากขึ้น เพราะต้องไปขออำนาจศาล เสียเวลา


กำลังโหลดความคิดเห็น