“บิ๊กเจี๊ยบ” คืนสู่เหย้า เป็นประธานวันสถาปนาหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ครบ 52 ปี “พล.อ.วิมล-บิ๊กบัง” ร่วมงานด้วย รับอบอุ่นได้กลับถิ่นเก่า ย้ำหนุนงานรัฐบาล
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ครบ 52 ปี พร้อมวางพานพุ่มถวายราชสักการะอนุสาวรีย์ทหารพลร่ม ก่อนจะมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์ จำนวน 150 คน อาทิ พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เจ้าหน้าที่ระดับสูงในส่วนของอำเภอและจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปรามปราบยาเสพติด
จากนั้น พล.อ.เฉลิมชัยเข้าร่วมพิธีสงฆ์ ก่อนจะพบปะอดีตผู้บังคับบัญชาที่มาร่วมงาน เช่น พล.อ.วิมล วงศ์วานิช พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ร่วมชมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวและแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมมอบรางวัลกำลังพลดีเด่น และให้โอวาทตอนหนึ่งว่า เพื่อนนักรบพิเศษที่รักทุกท่าน ตนได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่เป็นบรรยากาศของความอบอุ่น มีความสุขและความผูกพันที่เรามีต่อกันมา ตนอยู่ที่นี่มากว่า 30 ปี
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนนักรบพิเศษที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ ถือเป็นประกาศนียบัตรแห่งความสำเร็จในการรับราชการและความก้าวหน้า เป็นสิ่งที่จารึกไว้ในความทรงจำของผู้บังคับบัญชาในแต่ละปีเราจะมีผู้ได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติในลักษณะนี้ประมาณ 15 คน จากจำนวน 5 พันคน ถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ขอให้รักษาคุณงามความดีเหล่านี้ไว้ตลอดไป
ผบ.ทบ.ยังบอกอีกว่า นอกจากนี้เรายังมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่อดีตนักรบพิเศษที่เสียสละเลือดเนื้อชีวิตปกป้องอธิปไตยของชาติในทุกสมรภูมิทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจปิดลับหรือเปิดเผย นักรบพิเศษของเราได้ปฏิบัติภารกิจจนประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยรบพิเศษจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและพวกเราคนรุ่นหลังต้องรักษาตลอดไป
พล.อ.เฉลิมชัยย้ำว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กองทัพบกทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงให้กับรัฐบาลในการบริหารประเทศ ตามแนวทางที่กำหนด กองทัพบกมีปัญหามากมาย ที่ต้องเข้าไปแก้ไข ต้องพึ่งพาอาศัยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดยเฉพาะกำลังพลที่เกี่ยวข้องในการดูแลความมั่นคงในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ขอให้เตรียมความพร้อมของตนเองตลอดเวลา นอกจากนี้ ขอฝากงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ขอให้ยึดถือหลักของกองทัพบกที่ว่า เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาสและนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบของเรา
“ส่วนภาพรวมของหน่วย ขอฝากผู้บังคับบัญชาพิจารณาพัฒนาหน่วยให้สอดคล้องกับแนวทางภารกิจของหน่วยที่ได้รับมอบในอนาคต โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของกำลังพลซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสูงสุดของหน่วยรบพิเศษ ทั้งนี้ ในความเป็นรบพิเศษนั้นคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ ตนเน้นย้ำนโยบายที่ได้ให้ไว้ คือ 1. ต้องมีร่างกายแข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง 2. ต้องมีระเบียบวินัย จิตใจกล้าหาญ พร้อมปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงอันตรายได้ 3. ต้องมีความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ 4.ต้องมีอุดมการณ์ จิตใจมีคุณธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ 5. ต้องมีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจตลอดเวลา” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว และว่าขอให้ทุกคนสร้างความภูมิใจในตนเองสร้างความภูมิใจในการเป็นทหารโดยเฉพาะทหารอาชีพอย่างพวกเราทหารรบพิเศษต้องทำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินของพวกเราทุกคนตระหนักในบทบาทหน้าที่และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดโดยคำนึงถึงเกียรติยศชื่อเสียงของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
ทั้งนี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นหน่วยปฏิบัติการที่หวังผลทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของกองทัพบกมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทั้งในยามปกติและยามสงครามที่ต้องใช้สติปัญญา ความกล้าหาญ ความอดทนเสียสละอย่างสูงในการปฏิบัติให้บรรลุภารกิจ ดังนั้น กำลังพลของหน่วยจึงต้องมีกำลังกายที่แข็งแกร่ง มีขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยม พร้อมที่จะปฏิบัติการในทุกพื้นที่โดยไม่มีความลังเล แม้ภารกิจที่ได้รับมอบจะมีความยากลำบากและเสี่ยงอันตราย และพร้อมที่จะเป็นผู้พลีชีพเพื่อรักษาปกป้องประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มีโครงสร้างการจัดที่อ่อนตัวสามารถปฏิบัติการพิเศษได้หลากหลายรูปแบบโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาระยะทางและสภาพภูมิประเทศมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ได้เร็วพร้อมที่จะเข้าปฏิบัติต่อเป้าหมายด้วยความเงียบแต่รวดเร็วและรุนแรงสมกับคำขวัญของหน่วยที่ว่า “พลังเงียบ เฉียบขาด”