เลขาฯ สมช.ลั่นจับตาความเชื่อมโยง 3 กลุ่มเคลื่อนไหว เร่งขยายท่อน้ำเลี้ยงม็อบคนอยากเลือกตั้ง ไม่ห่วงทำกิจกรรม เผย “บิ๊กตู่” กำชับให้ระวังมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ ไม่ห่วงม็อบต้านโรงไฟฟ้าเทพา จ่อเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ ชี้มี จนท.ที่เกี่ยวข้องดูแล เชื่อสถานการณ์ไม่บานปลาย
วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม สั่งหน่วยงานความมั่นคงจับตาความเคลื่อนไหวของ 3 กลุ่มทั้งการปรากฏตัวนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ความเคลื่อนไหวของกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำมวลชน รวมถึงการชุมนุมของแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า ต้องดูแต่ละส่วนว่ามีความเชื่อมโยง และมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ในส่วนของกลุ่มม็อบคนอยากเลือกตั้ง ตนคิดว่าหากไม่มีใครยุยงสร้างสถานการณ์ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ในส่วนของการขยายผลท่อน้ำเลี้ยงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก็จับตาดูอยู่ว่ามีความเกี่ยวพันกับใครบ้าง
เมื่อถามว่าแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งประกาศจะจัดกิจกรรมยาวจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง พล.อ.วัลลภกล่าวว่า เป็นแผนการดำเนินการของเขา ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อยู่ ตอนนี้ยังไม่ได้รุนแรงอะไร มีเพียงการเคลื่อนไหวเพื่อทำกิจกรรมเท่านั้น ส่วนจะมีคนมาร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ตนมองว่าบางพื้นที่ประชาชนก็ไม่ได้ให้ความสนใจมาก
เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นห่วงว่ากลุ่มดังกล่าวจะจุดกระแสติดหรือไม่ พล.อ.วัลลภกล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์ยังมีความเรียบร้อยอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ดูแล อีกทั้งติดตามสถานการณ์ในภาพรวม คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เน้นย้ำว่าต้องดูแลสถานการณ์ให้มีความเรียบร้อยและระมัดระวังอย่าให้มีมือที่สามหรือใครมาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงได้
พล.อ.วัลลภยังกล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินที่ชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมเคลื่อนย้ายไปชุมนุมบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 ก.พ.ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลาย อีกทั้งคิดว่าไม่มีใครไปยุยงหรือทำให้สถานการณ์บานปลายขึ้นได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเองก็จับตามองอยู่