xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ปัดว่าสองอดีตนายกฯ “ไอ้กระพี้” แค่สื่ออย่าสนแต่เปลือกนอก ขู่จับตานักการเมืองบินพบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” แจงคำพูด “ไอ้กระพี้” ไม่ได้พาดพิงสองอดีตนายกฯ แค่อยากบอกสื่ออย่าสนใจแต่เปลือกนอก ให้นึกถึงแก่นของไม้-สารัตถะของข่าวบ้าง ยันให้เกียรติ ติงอย่าเล่นแต่ข่าวตลาด ยังมั่นใจ ตปท.ให้ความร่วมมือ ขู่นักการเมืองบินพบ “แม้ว-ปู” ฝ่ายความมั่นคงจับตาตลอด

วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถอนหายใจก่อนตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีการพูดคุยและหารือกับ รมว.ต่างประเทศสหราชอาณาจักร ถึงเรื่องการเคลื่อนไหวของสองอดีตนายกรัฐมนตรีวานนี้ (12 ก.พ.) ว่าไม่ได้มีการหารือในเรื่องดังกล่าว และไม่จำเป็นจะต้องหารือในเรื่องนี้ เพราะมีหน่วยงานและคนทำอยู่แล้ว เรื่องนี้ตนเคยบอกแล้วว่าไม่ว่าจะขอตัวใครไปก็ตาม ถ้าประเทศนั้นๆ ให้ก็คือให้ แต่ถ้าไม่ให้ก็คือเขาไม่ให้ และเราก็ไม่สามารถไปจับกุมตัวที่ต่างประเทศได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการสร้างความเข้าใจกับเขา ตนพยายามทำทุกอย่างอยู่แล้วว่าใครทำผิดกฎหมายในประเทศไทยบ้าง และส่งข้อมูลให้ทั้งหมดทุกประเทศ ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศจะพิจารณา เช่นเดียวกับบ้านเราซึ่งเราก็มีแนวทางและหลักเกณฑ์ของเราว่าจะส่งตัวหรือไม่ และจะต้องดำเนินคดีอย่างไรก็ต้องว่ากันไป ซึ่งก็มีหลายคดีที่เกี่ยวข้องกันอยู่

เมื่อถามว่า ล่าสุดรัฐบาลได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศในการให้ข้อูลที่ชัดเจนของสองอดีตนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต่างประเทศก็ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลมาว่าปัจจุบันพำนักอยู่ที่ไหน เมื่อถามไปว่าแล้วจะส่งตัวกลับมาให้หรือไม่ เขาก็เงียบเพราะมันมีปัจจัยหลายอย่าง ต่างประเทศก็มีหลักการ มีกฎหมายของเขา กฎหมายบ้านเราอาจจะผิด แต่กฎหมายบ้านเขาไม่ผิด หรือบางเรื่องที่เป็นเรื่องระดับสูงเกินไป เช่น เรื่องของอดีตนายกรัฐมนตรี เขาอาจมองว่าเป็นประเด็นการเมืองนั่นคือปัญหา เพราะที่ผ่านมาเราเอาเรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นการเมืองไปเสียทั้งหมด ความจริงเป็นรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ถ้าเราช่วยกันทำความเข้าใจแบบนี้ ทุกคนก็จะเข้าใจและช่วยกันทำให้ไม่สับสนอลหม่าน ตนเองก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร เพราะเมื่อเขาทำผิดกฎหมายยังไม่กลับมาก็ยังดำเนินคดีไม่ได้ แต่กลับมาเมื่อไหร่ก็ดำเนินคดีได้เท่านั้นเอง วันนี้ขอร้องว่าให้ร่วมกันกับการพัฒนาประเทศดีกว่า เรื่องอื่นก็ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า สถานะล่าสุดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้พาสปอร์ตประเทศอะไรในการเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “หนังสือเดินทางของประเทศไทยก็ไม่มี กระทรวงการต่างประเทศถอนทั้งหมดแล้ว ก็เป็นหนังสือเดินทางของต่างประเทศ ต่างประเทศมีการออกหนังสือเดินทางได้หลายแบบ ทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยว และประเภทอื่นๆ แต่ถ้าเป็นในส่วนของประเทศไทยไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจสถานการณ์โลกเป็นอย่างนั้น”

“สิ่งที่น่าสนใจ มีทั้งอิตาลี อังกฤษ ประเทศสำคัญในอียูได้มาพบกับผม ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของเรา อังกฤษถือเป็นอันดับสองในเรื่องกาค้าการลงทุนของกลุ่มประเทศอียู เราก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เขาก็ได้ให้กำลังใจในการเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง ผมก็ได้บอกว่าผมได้ดำเนินการตามนั้น ตามขั้นตอนต่างๆ และกฎหมายที่มีอยู่ ผมบอกไปแล้วว่าวันนี้ถ้าขยับไปได้มันก็จะขยับไป 90 วันล่ะมั้ง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ผมไม่ได้เป็นคนกำหนด ก็ได้ยืนยันไปตามนั้น ขอร้องว่าอย่าเอาไปเป็นประเด็นว่าผมพูดไปแล้วกลับคำ มันไม่ใช่ ผมกลับคำไม่ได้ เพราะทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของโรดแมปของผมซึ่งมีกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง มันจะล่าช้าหรือเร็วขึ้นอยู่ที่กฎหมายลูก ก็ว่ากันมา ผมไม่ได้ต้องการไปแก้ไขอะไรให้มากมายนัก ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญหรือจำเป็น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถาม กรณีที่มีนักการเมืองบินไปหาอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต่างประเทศ มีการจับตามองเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะขณะเดียวกันก็มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในเมืองไทย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากจะบินไปก็ไปเถอะ ก่อนหน้านี้เราให้ทำเรื่องขออนุญาตก่อน ก็กล่าวหาว่าตนละเมิดสิทธิมนุษยชน สื่อเองก็ต่อว่า ตนก็ให้เกียรติทุกคน อยากไปก็ไป ไม่ต้องมาขออนุญาตตนแล้วจะเอาอะไรกันอีก แต่วันนี้ถ้าใครไปทำความผิด หรือเคลื่อนไหวอะไรในทำนองล้มล้างรัฐบาล ก็สามารถขอข้อมูลได้อยู่แล้วว่ามีใครไปพบไปหากันบ้าง ตนไม่จำเป็นต้องแจงเพราะเป็นเรื่องของฝ่ายคามมั่นคงทำงานกันอยู่

เมื่อถามว่า ทำไมเวลาที่สื่อมวลชนถามถึงสองอดีตนายกรัฐมนตรีที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศ นายกฯ ถึงแสดงอารมณ์ทุกครั้ง ขณะที่บอกว่าเป็นเรื่องแค่ไอ้กระพี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่ได้แสดงอารมณ์กับอดีตนายกฯ ทั้งสองท่าน แต่ผมแสดงอารมณ์กับคำถามของสื่อมวลชน เข้าใจกันบ้างไหม อย่างเมื่อวานนี้ที่ผมพูดว่าทำไมต้องไปสนใจกับไอ้กระพี้ คำว่าไอ้กระพี้ไม่ได้หมายความถึงสองอดีตนายกรัฐมนตรี ผมให้เกียรติเขา เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี จะผิดหรือถูกก็ให้กฎหมายว่าตามกันมา แต่คำว่าไอ้กระพี้ของผม คือ สื่อสนใจแต่ข่าวเปลือกนอกที่ไม่สนใจสารัตถะข้างใน ข้อเท็จจริงข้อมูลที่ชัดเจน หรือกระบวนการยุติธรรมต่างๆ สื่อไม่สนใจกับคำหรือเรื่องพวกนี้เลย แล้วก็ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดกันไปหมด เจ้าหน้าที่ก็มีปัญหาในการทำงาน กระบวนการยุติธรรมก็มีปัญหา ขาดความน่าเชื่อถือ ทั้งๆ ที่กฎหมายมีทุกตัว สิ่งใดที่เกิดมาในสมัยก่อน มีข้อบกพร่องและผิดพลาด รัฐบาลนี้ก็พยายามแก้ไขอย่างเต็มที่ ทำน้อยเกินไปก็ไม่ได้ ทำแรงเกินไปก็ไม่ได้ สื่อก็ต้องช่วยผมบ้าง ลดความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจ ผมถึงได้บอกว่า อย่าไปสนใจกับไอ้กระพี้ รู้จักหรือไม่คำว่ากระพี้ ต้นไม้มีเปลือก ตรงนั้นเรียกว่ากระพี้ มันไม่มีประโยชน์ไม่มีคุณค่า เอาไปทำอะไรไม่ได้ เขาต้องถากเปลือกนอกออกไปเพื่อทำไม้แปรรูป สนใจแก่นของไม้มันบ้าง แก่นก็คือสาระสำคัญของข่าว วันนี้สื่อทำข่าวตลาดเพียงอย่างเดียว มันไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อการทำงาน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในตอนท้ายว่า คำตอบส่วนใหญ่ของตนวันนี้บางทีก็เป็นแค่กระพี้เหมือนกัน และที่ตอบวันนี้ก็ไม่ได้โมโห ไม่ได้มีอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น อารมณ์หมดไปตั้งนานแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น