สนช.ตั้ง กมธ.ร่วมทบทวนร่างกฎหมาย ส.ส.-ส.ว. นัดถกครั้งแรก 19 ก.พ.นี้ โดยต้องทำรายงานให้เสร็จภายใน 28 ก.พ.
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งที่ 10/2561 โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีวาระสำคัญคือ การตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ตามมาตรา 267 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญฯ หลังจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งความเห็นแย้งร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับมาให้ สนช.ตั้ง กมธ.ร่วม เนื่องจากยังมีประเด็นที่ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
โดยร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ประชุม สนช.ได้ตั้ง กมธ.ร่วม 11 คน ประกอบด้วย ตัวแทน สนช.5 คน ได้แก่ นายวิทยา ผิวผ่อง นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ นายชาญวิทย์ วสยางกูร นายสมชาย แสวงการ ตัวแทน กรธ.5 คน ได้แก่ นายภัทระ คำพิทักษ์ นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง นายนรชิต สิงหเสนี นายศุภชัย ยาวะประภาษ พล.อ.อัฏฐพร เจริญพานิช และตัวแทน กกต.1 คน ได้แก่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ประชุม สนช.ตั้ง กมธ.ร่วม 11 คนประกอบด้วย ตัวแทน สนช.5 คน ได้แก่ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ พล.อ.อู้ด เบื้องบน พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน นายสมชาย แสวงการ ตัวแทน กรธ.5 คน ได้แก่ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ นายอัชพร จารุจินดา นายอุดม รัฐอมฤต นายปกรณ์ นิลประพันธ์ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ และตัวแทน กกต.1 คน ได้แก่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.
นายสุรชัยแจ้งว่า ร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ กมธ.ร่วมต้องพิจารณาทบทวนร่างกฎหมายให้เสร็จภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อส่งให้ที่ประชุมสนช.พิจารณาลงมติต่อไป โดยร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประชุมนัดแรกในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลา 13.30 น. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ประชุมนัดแรกในวันเดียวกันใน เวลา 15.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวลาที่ กมธ.ทั้ง 2 คณะต้องพิจารณาข้อโต้แย้งพร้อมทำรายงานให้แล้วเสร็จ ภายใน 15 วันนั้นจะครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคม แต่ในวันดังกล่าวเป็นวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ทำให้ กมธ.ทั้ง 2 คณะ ต้องพิจารณาพร้อมส่งรายงานให้บรรจุวาระประชุม ก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้