อธิบดีกรมอุทยานฯ ลั่น ไม่ไว้หน้าใคร หลังจับ “บิ๊กอิตาเลี่ยนไทย” กลางทุ่งใหญ่พร้อมซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ชม จนท.ไม่เลือกปฏิบัติ ย้ำยังมีคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนต้องสอบสวนให้หมด แต่จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่ “รมว.ทรัพย์” ชักพูดทะแม่ง ขออย่าเพิ่งปรักปรำใคร รอดูพยานหลักฐานก่อน
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หลังพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธ ใกล้เต็นท์ที่พักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ว่าเบื้องต้นนายเปรมชัยยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ดี กรณีนี้ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ขณะนี้ต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการไปก่อน ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน ส่วนข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้มาจากเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจพบซากเสือดำ อาวุธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เห็นในตอนยิง ดังนั้นทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการ
นายธัญญากล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานนอกจากนายเปรมชัยแล้วยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนแต่ยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง อยู่ในแวดวงธุรกิจระดับสูงเหมือนนายเปรมชัยด้วยหรือไม่ หรือมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการก่อน แต่เท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่กลุ่มของนายเปรมชัยขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปจุดหนึ่ง แต่กลับไปอีกจุดหนึ่ง หากเจ้าหน้าที่ไม่มีการลาดตระเวนคงไม่สามารถจับกุมได้ ทั้งนี้ สำหรับบทลงโทษหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ต้องพิจารณาว่าผิดกระทงใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่เพราะนายเปรมชัยเป็นถึงนักธุรกิจระดับสูง นายธัญญากล่าวว่า ตนไม่ได้กังวล เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ เราทำดีที่สุด ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ต้องให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่เนื่องจากไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าใครถ้าผิดว่าไปตามผิด แต่ต้องอยู่ที่พยานหลักฐานว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า นักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไปสามารถพกพาอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติได้หรือไม่ นายธัญญากล่าวว่า เราไม่ให้เอาเข้าอยู่แล้ว แต่โดยปกติเจ้าหน้าที่ของเราไม่มีโอกาสจะไปตรวจค้นว่าใครจะเอานำอะไรเข้ามาในพื้นที่
ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลเบื้องต้นจากอธิบดีกรมอุทยานฯ ทั้งนี้ ตนขอให้มีการสอบสวนดำเนินการสอบสวนตามพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมาย อย่าเพิ่งปรักปรำใคร และอย่าใช้ความรู้สึกไปตัดสินว่าใครผิดใครถูก ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนว่าใครเป็นผู้กระทำที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้มีเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ขอให้สอบถามข้อมูลที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ส่วนตัวเห็นว่าขอให้ดูพยานหลักฐานก่อนดีกว่า เมื่อถามว่าจะสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า รัฐมนตรีดูงานเรื่องนโยบายเป็นหลัก อย่าเพิ่งให้รัฐมนตรีไปสั่งทุกเรื่อง เพราะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่า กรณีดังกล่าวถือว่ามีความรุนแรงที่สุดหรือไม่ในช่วงระยะหลัง พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เคยเกิดกรณีที่มีคนไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สำหรับกรณีล่าสุดเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจ