กาญจนบุรี - กาญจนบุรี -เปิด 6 ข้อหาหนัก หลังจับ CEO อิตาเลียนไทย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ในเขตหวงห้าม พบซากเสือดำ เนื้อเก้ง พร้อมอาวุธปืนยาว และกระสุนปืนเพียบ
นายวิเชียร ชิณวงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณป่าห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาน้ำโจน ค่าพิกัดภูมิศาสตร์ (GPS) ในระบบ WGS84 คือ 47 P 485821 E 1678956 N ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคอง กับหน่วยฯ มหาราช ค่าพิกัด 47 P 485821 E 1678956 N ซึ่งเป็นจุดที่ ขสป.ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวัน ไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์
หลังรับแจ้งจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย เดเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน คือ นายยงค์ เครือ นายนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 กิโลเมตร) ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไรเฟิลติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองแฝด จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนพร้อมใช้งาน และพบซากไก่ฟ้าหลังเทา กับเนื้อเก้ง จึงได้ควบคุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูตร และคณะมาที่สำนักงานเขตฯ
หลังจากนั้น ในวันที่ 5 ก.พ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นเพิ่มเติม พบซากเสือดำถูกชำแหละเนื้อ และหนังแล้ว กับเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณที่แคมป์พักของคณะ นายเปรมชัย เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ จึงจับกุมเพื่อส่ง สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ดำเนินการต่อไป สำหรับฐานความผิด คือ
1.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
3.ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
4.ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
5.ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507
6.สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป