นายกรัฐมนตรีเยี่ยมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านส้มซ่า ทดลองนวดไหล่ อุ้มไก่เทพประทานพร บอกไม่ต้องกลัว คสช.ไม่ดุ ซื้อลูกหมาบางแก้ว 3 ตัวจ่าย 2.5 หมื่น แบ่งให้ “บิ๊กฉัตร-บิ๊กป๊อก” คนละตัว ขอให้เรียกประยุทธ์ จันทร์ส้มซ่า ดีใจได้เจอ จะได้กลับไปคิดว่าจะทำอะไรให้ แนะหาช่องขายออนไลน์ ยันพยายามแก้ปมข้าว-ผู้มีรายได้น้อยตลอด ยิ้มเจอขอถ่ายรูป เผยรู้สึกเหมือนประกวดนางสาวไทย อย่าซื้อหวยกันเยอะ
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านส้มซ่า ทั้งนี้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สปาโดยได้ทดลองนวดไหล่แก้เมื่อยจากผู้สูงอายุในชุมชน ทั้งนี้เมื่อคุณยายบอกให้นายกรัฐมนตรีอยู่นานๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบว่า “ยังไม่ถึงเวลาพูด” พร้อมหัวเราะอย่างเขินๆ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจกับรูปไก่พื้นเมืองของจังหวัดพิษณุโลก คือ “ไก่ขาวหางเหลือง”ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลมา พร้อมทดลองอุ้มไก่ชื่อ “เทพประทานพร” พร้อมให้ความสนใจกับพ่อพันธุ์ไก่ชนพระนเรศวร ขาวหางเหลืองชื่อ “เจ้ามารวย” ที่มีราคาสูงกว่า 100,000 บาท เนื่องจากมีคุณลักษณะสมบูรณ์แบบไหล่กว้างบึกบึน แข้งมังกร ปัจจุบันไก่พันธุ์ขาวหางเหลืองได้รับความสนใจจากชาวต่างประเทศมาขอซื้อลูกไก่ไปเลี้ยงจำนวนมากทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว รวมทั้งบรูไน โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดกับไก่ชนเทพประกายทองพร้อมเกาคอว่า “ไม่ต้องกลัว คสช.นะ คสช.ไม่ดุ”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังให้ความสนใจในการเพาะพันธ์เพื่อจำหน่ายสุนัขพันธุ์บางแก้วของกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขจังหวัดพิษณุโลกโดยได้ล้อเล่นกับ “เจ้าเมืองแมน” สุนัขพ่อพันธุ์และซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพศผู้ จำนวน 3 ตัว ในราคาตัวละ 6,000 บาท เพื่อนำไปเลี้ยงเองที่บ้าน 1 ตัว อีก 2 ตัวมอบให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดยได้จ่ายเงินสดให้แก่เจ้าของจำนวน 25,000 บาท พร้อมระบุว่าเงินที่เหลือให้เป็นขวัญถุง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาในวันนี้ นี่คือโอกาสของบ้านเมืองเราที่มีศักยภาพ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยเฉพาะเรื่องของส้มซ่า ขอให้เรียกนายกฯ ว่าประยุทธ์ จันทร์ส้มซ่า เพื่อที่จะได้กลมกลืนกันหน่อย วันนี้ดีใจที่ได้เจอกัน นี่คือความสุขของตนเพื่อที่จะได้กลับไปคิดว่าจะทำอะไรให้ เพราะถ้าคิดคนเดียวก็จะมีปัญหา ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันคิด ชุมชนนี้มีภูมิปัญญาพื้นฐานที่ดี โดยมีทั้งปลากัด ไก่ชน ฯลฯ โดยต้องไปดูว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ได้อย่างไร ในส่วนของส้มซ่านั้นไม่น่าเป็นห่วง เชื่อว่าจะสามารถขายได้มากกว่านี้ ด้วยช่องทางการค้าขายออนไลน์ จึงอยากให้รวมกลุ่มกันแปรรูป แล้วนำสินค้าของเราไปขายแบบออนไลน์ แต่ต้องมีคุณภาพด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเรื่องของราคาข้าวนั้นรัฐบาลได้ดูแลหลายอย่างแล้ว ทั้งนโยบายจำนำยุ้งฉาง โดยข้าวต้องมีคุณภาพ และข้าวต้องปลูกตามความต้องการของตลาด ที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาราคาข้าวตลอด 3 ปีเต็ม และไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ไม่อยากให้มองปัญหานี้ว่าเป็นเรื่องของการเมืองหรือประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยรัฐบาลพยายามไม่แตะต้องเรื่องเหล่านี้ รู้ว่าบางคนมีเจตนาดี แต่บางครั้งก็ไม่เข้าใจ ถ้าบ้านเมืองมีเสถียรภาพก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แต่ถ้าบ้านเมืองกลับไปเช่นเดิมก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขอให้ทุกคนนึกถึงลูกหลาน เพราะถ้าทำอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้ก็จะไม่มีทางเป็นไปได้ ขอย้ำว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อย เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการรัฐ แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่สามารถดูแลทุกภาคส่วนได้
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไปถามประชาชนว่า มีใครเบื่อนายกฯ หรือไม่ โดยผู้สูงอายุคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า “รักนายกฯ ขอถ่ายรูปกับนายกฯ หน่อย” โดย พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มชอบใจก่อนตอบว่า “มาแรง ถือว่าจริงใจจริงๆ” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินลงจากโพเดียม เพื่อทักทายประชาชนและรับดอกไม้ ถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง ก่อนกล่าวว่า “วันนี้รู้สึกเหมือนกับประกวดนางสาวไทย ขอให้ทุกคนร่ำรวย อย่าซื้อหวยกันเยอะ”และระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินถ่ายรูปกับชาวบ้าน มีชาวบ้านแซวขอหวยทะเบียนรถนายกฯ ว่า “นายกฯ 5550 หรือเปล่า ยังไงงวดนี้ขอหน่อย อยากถามนายกฯ เหมือนกันว่า แม่อายุ 80 แล้วยังถูกจับตลอดเลย เพราะเล่นไพ่ แก่แล้วจึงไม่รู้จะไปทำอะไร นอกจากแทงหวยกับเล่นไพ่”
หลังจากนั้นมีชาวบ้านคนหนึ่งรอพบนายกฯ เพื่อมอบวัตถุมงคล ได้แก่ พระร่วง พร้อมกล่าวขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง และแต่วันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป บ้านเมืองของเราจะเจริญรุ่งเรืองผ่องอำไพ โดย พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจก่อนกล่าวว่า “จ้า” ทั้งนี้ ก่อนเดินขึ้นรถเดินทางไปภารกิจต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ทำมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมตะโกนว่า “รักทุกคน”