ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เมื่อไอโอเจอผลสะท้อนมุมกลับ บีบ “ป๋าป้อม” ต้องถอย ยิ่งเจ็บแสบเมื่อโดน “เด็ก นตท.56” โพสต์เตือนสติ สังคมชื่นชมวุฒิภาวะเหนือ “นายพล” ติงเพื่อนร่วมสถาบัน อย่าเอา “เกียรติยศ - ศักดิ์ศรี” ข่ม “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” คนอื่น ทิ้งท้ายวรรคทอง “ไม่มีใครทำลายพวกเราได้ ยกเว้นพวกเราเอง”
คำพูดเป็นนายตัวเองฉันใด สภาพ “ป๋าป้อม”ก็ไม่ต่างจาก “ปลาหมอ”ที่ซวยเพราะปากฉันนั้น .. แม้จะออกมาหงายการ์ด “ขอโทษ” ครอบครัวของ “นตท.เมย” ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตที่โรงเรียนเตรียมทหาร “อย่างมีเงื่อนงำ” .. แต่คำพูดที่เสียดแทงหัวอก “คนเป็นพ่อ - แม่” ก็ยากเหลือเกินที่จะลืมเลือน และกว่าจะขอโทษได้ ปล่อยให้เวลาผ่านไปหลายวัน .. ก็ด้วย “ไอโอ” ปฏิบัติการข่าวสารของทางทหาร ไม่ได้ผล แถมตีกลับจนทั้งกองทัพแทบจมดิน .. ย้อนไปในช่วงที่เรื่อง “น้องเมย” จะเป็นข่าวใหญ่ จะมีการใช้ “เพจสายดาร์กเพจหนึ่ง” ปล่อยข้อมูลว่า “น้องเมย” ไม่ได้อยากเป็นทหาร .. ตลอดจน “นายทหารใหญ่” เรียงหน้าออกมาโบ้ยไปว่าเป็น “ปัญหาสุขภาพส่วนตัว” ..ทว่า ความจริงคือความจริง ทุกข้อกล่าวหาถูกหักล้างด้วยข้อมูลจากฝ่ายน้องเมย ทั้งเพื่อนสนิท - ครอบครัว ตอกย้ำเป็นเสียงเดียวกันว่า “นตท.เมย” บอร์นทูบีมาเป็นทหาร แถมวินัยสูง - ความสามารถเยี่ยม เสียด้วย .. กระแสสังคมก็เลยตีกลับไปรุมกระหน่ำทางกองทัพ โดยเฉพาะ “ป๋าป้อม” ที่ดูมั่นอกมั่นใจว่าการข่าวเอาอยู่แบบเละตุ้มเปะ .. คราวนี้ต้องให้ “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาปูทางออกตัวแทนก่อนว่า “ไม่ได้ตั้งใจ” ใครต่อใครในรัฐบาลออกมาชี้แจงแทนยังไม่สามารถสะกดอารมณ์ของประชาชนที่ฟังแล้วรู้สึกขึ้นได้เลย .. พอสำเหนียกได้ว่า มันจะพาลให้ “รัฐบาลเรือแป๊ะ” ถลาเซในลงก้นมหาสมุทร ค่อยปล่อยคิวให้ “พี่ป้อม” ออกมาทำเสียงอ่อยอย่างที่เห็น .. แล้วก็พอจับอาการได้ว่า พูดไปงั้นแหละ ไม่ได้รู้สึกว่า “บิ๊กป้อม” จะรู้สึกผิดจริงๆ .. แม้เรื่องจะเงียบๆ ซาๆ ลงไปจากการขอโทษ แต่ไม่ใช่เพราะสังคมให้อภัย “รมว.กลาโหม” ที่ขวานผ่าซากไม่ดูตาม้าตาเรือ หากแต่กำลังรอผลชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุกันว่า เป็นเพราะอะไร กระทั่งการย้าย 2 ผู้การฯ เพื่อเปิดทางให้สอบสวนก็เป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น .. ถ้าเป็นอย่างที่คนสงสัยล่ะก็ อือหือ รวนกันทั้งกองทัพแน่ๆ เผลอๆ ตัว “พี่ใหญ่” เองก็อาจจะอยู่ไม่ได้ .. “ศักดิ์ศรี - เกียรติภูมิ” ของ “โรงเรียนเตรียมทหาร” ที่ค้ำคอกันตั้งแต่รุ่นปู่ยันรุ่นหลาน ทำเอาสถานการณ์ร้าวรานกันไปใหญ่ นตท. หลายคนก็ “พลีชีพ” ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ..
ต่างจากศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 56 รายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thatpon Srisupunbut ถึงกรณี “น้องเมย” เตือนสติศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนเตรียมทหาร .. สะกิดเตือนว่า ที่พี่น้อง ตท. ทำกันอยู่เข้าข่าย “คลั่งสถาบัน” รึเปล่า .. นำ “เกียรติยศ - ศักดิ์ศรี” มาข่ม “ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์” หรือไม่ .. พร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคที่สะท้อนวุฒิภาวะสูงส่งกว่า “นายพล” ที่ใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียอีก ว่า “ไม่มีใครทำลายพวกเราได้ ยกเว้นพวกเราเอง” ..จน “ยอดไลก์ - ยอดแชร์” กระหน่ำเหมือนเป็นการเหยียบเข้าที่หน้าของผู้ที่หมิ่นศักดิ์ศรี“ น้องเมย” ก่อนหน้านี้ ทุกคน .. และถามต่อว่า เมื่อไหร่ “สังคมไทย” จะพอใจ ก็ตอบแทนได้เลยว่า “ต้องมีคนรับผิดชอบ” ดูอย่างที่ที่ประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง “เกาหลีใต้” ที่นั่นศาลทหารตัดสินลงโทษจำคุกนายทหารยศสิบเอก 40 - 50 ปี ที่เป็น “หัวโจก” ชักชวนเพื่อนทหารให้ข่มเหงรังแก “ทหารเกณฑ์” จนเสียชีวิต .. ถ้าจบแบบนั้นสิจะแฮปปี้เอนดิ้ง แล้วจะทำให้กองทัพกลับมาสง่างามอีกครั้ง.
** ครม. ระเบิดเวลา!! โฉมหน้า “ครม. ประยุทธ์ 5” คล้ายจะดูดี เสริมทัพ “ทีมสมคิด” ปึ้กขึ้น แต่เติม “มือเซ้งลี้” แอบแฝงในกระทรวงใหญ่ “เกษตรฯ - พลังงาน” ต้องจับตา ใช้ผลงานทีมเศรษฐกิจบังหน้า แต่หลังฉากปล่อยหากินกันลอตใหญ่ อาจถึงจนาดมหกรรมเก็บค่าต๋งครั้งมหโหฬาร
ฝุ่นตลบอยู่นาน .. ที่สุด “ครม. ประยุทธ์ 5” ก็ได้ฤกษ์คลอดออกมา มีการโรเทท - หมุนเวียนตำแหน่งทั้งหมด 18 คน .. รัฐมนตรีที่ถูกปรับออกไม่ได้ไปต่อ 9 คน เป็นพลเรือน 9 ทหาร 3 .. รัฐมนตรีเข้ามาใหม่ 10 คน พลเรือน 9 ทหาร 1 ทำผลให้เหลือ “เสนาบดีลายพราง” แค่ 9 คนเท่านั้น เป็นไปตามที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แพลมๆ ออกมาก่อนหน้านี้ .. ที่หลุดไปแบบเซอร์ไพรส์พอสมควร ก็รายของ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ที่หลุดตำแหน่งไป .. รายของ “บิ๊กโด่ง” เคยมีชื่อติดโผ “รมต.ตกงาน” มาตลอด แต่รอบนี้ไม่มีวี่แวว จากไปแบบเงียบๆ ซึ่งก็คงมาจาก “แผลเก่า” ที่ “บิ๊ก คสช.” เคยแห่ออกมาอุ้ม พอเรื่องซา ก็เลยต้องไป .. เห็นว่าเจ้าตัวก็รู้ล่วงหน้าไม่นาน ช๊อคไปไม่ใช่น้อย จน “ตุ๊บป่อง” ไม่ปรากฎตัวในงานศพบิดา “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทั้งที่คืนนั้น “กระทรวงกลาโหม” เป็นเจ้าภาพร่วมกับ ครม. .. ภาพรวมการปรับทัพครั้งนี้ถือว่า ดูดีในส่วนของทีมเศรษฐกิจของ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ได้รับการเสริมทัพปึ้กขึ้นได้ “ตัวจิ๊ด” มาช่วยงานหลายคน .. รวมทั้งยัง “ได้ภาพ” จากการที่ได้ “อาจารย์ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีหมุดหมายในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” .. แต่น่าห่วงตรงเจ้ากระทรวงเกษตรฯ “ปลัดปุ้ย” กฤษฎา บุญราช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย แหกโผเข้ามานั่งแบบเซอร์ไพรส์คนทั้ง “กระทรวงพญานาค” .. การมาของ “ปลัดปุ้ย” ยังสะท้อนให้เห็นว่า “ทหาร” ยังกั๊กงานกระทรวงเกษตรฯเอาไว้เอง ไม่ได้มอบอำนาจเต็มให้ “เฮียกวง” ยังไม่ปล่อยให้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด .. เพราะอดีตปลัดกระทรวงคลองหลอดรายนี้ ถือเป็นสายตรงของ “ท็อปบูต” ไม่ว่าจะเป็น “น้องตู่” หรือ “พี่ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่เพิ่งออกตัวแรงขวางทางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า - ท้องถิ่น ผ่าน “งบ อปท.” ของ “เฮียกวง” .. หาก “ปลัดปุ้ย” ยังถือหาง “นายเก่า” ก็เท่ากับทำหมันการส่งเสริมอุตสาหกรรมสินค้าการเกษตรฯ ที่ “เฮียกวง” หมายมั่นไว้ .. ตลอดจนรายของ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน คนใหม่ ที่มีร่องรอยความน่าเป็นห่วง ด้วยเคยออกตัวหนุนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 .. รวมทั้งยังยิยมชมชอบระบบ “สัมปทาน” มากกว่า “แบ่งปันผลผลิต” ที่ “ภาคประชาชน” อุตส่าห์ต่อสู้จนบรรจุไว้ในกฎหมายปิโตรเลียมฉบับใหม่ .. น่าห่วงเหลือเกินว่า การเข้ามาของ “ศิริ” ในฐานะ “ม้ามืด” รอบนี้ เป็นเพราะ “มีงาน” มาลุยสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ให้เป็นตาม “ธงเดิม” ของ “ฝ่ายอำนาจ” อันอาจจะนำมาสู่ผลประโยชน์ “ค่าต๋ง” ก้อนมหึมา ที่ “บิ๊ก คสช.” อาจหวังตุนไว้ใช้เป็น “ทุนเลือกตั้ง” หรือเป็น “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” ยามหมดอำนาจก็เป็นได้ .. ส่งผลให้ภารกิจของ “รัฐบาล คสช.” ในปีหน้าอาจจะ “ย้อนแย้ง” ในตัว ขณะที่มอบให้ “ทีมสมคิด” เดินงานบูทเศรษฐกิจฉาบหน้าไว้ แต่ฉากหลังกลับจัด “มือเซ้งลี้” มาเดินงานใต้ดิน .. รวมไปถึงความเหนียว แน่น หนึบของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เก้าอี้รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม อยู่ครบ เช่นเดียวกับ “บิ๊กป๊อก” ที่ทั้งคู่ยังคุมอาณาจักรคลองหลอด อยู่เหมือนเดิม ที่ 3 - 4 ปีมานี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า งานไม่ทำ หาแต่เรื่อง!.. กลายเป็น “ระเบิดเวลา” ที่ “รัฐบาลลุงตู่” พกติดตัวเข้าสนามรบในปีหน้าที่ปรับโหมดเข้าสนามเลือกตั้ง เก็บไว้จะยิ่งเจ๊ง ยิ่งเป็นประเภทปากพาจนอย่างนี้ อยู่ข้างหลังน่าจะดีมากกว่ามั้ย
** ลักไก่สยายปีก กอ.รมน.!! “ประยุทธ์” ใช้ ม.44 แก้ “พ.ร.บ. ความมั่นคง” ตีขลุม “สาธารณภัย” เป็น “เรื่องการเมือง” อ่านไม่ยากหวังใช้ “กอ.รมน.” เป็นหัวหมู่ทะลวงสนามเลือกตั้ง
อาศัยช่วงกำลังชุลมุนเรื่องการปรับ ครม. กับเรื่อง “น้องเมย” คสช. ก็ “ลักไก่ - ปล่อยของ” กันอีกแล้ว .. หลังออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 51/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือที่รู้จักกันดีในนาม “พ.ร.บ. ความมั่นคง” ซึ่งก็คือกฎหมายที่ให้อำนาจหน่วยงานที่ชื่อ “กอ.รมน.” แก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในนั่นเอง .. เป็นการเดินเกมอย่างมี “พิรุธ” ตั้งแต่การใช้ “มาตรา 44” ทั้งที่จะแก้กฎหมายก็ง่ายนิดเดียว ผ่าน สภานิติบัญญัตแห่งชาติ (สนช.) ที่ว่านอนสอนง่ายไม่ต่างจาก “สภาฝักถั่ว” แป๊บเดียวก็ได้แล้ว .. ด้วยเนื้อที่แก้ไขก็แค่การแค่ “คำนิยาม” จากเดิมมีแค่ว่า “การดำเนินการเพื่อป้องกันควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ใดที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยอันเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ก่อให้เกิดความไม่สงบสุข ทำลาย หรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ ให้กลับสู่สภาวะปกติเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ” .. แต่เที่ยวนี้เติมไปอีก 1 ประโยคเด็ดๆ ว่า “รวมถึงในกรณีที่เกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” ถ้าไม่เจาะลึกก็เหมือนว่า เป็นการขยายภารกิจให้ดูแลเรื่องภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม พายุ โรคระบาดต่างๆ แค่นั้น .. แต่มีคนกระซิบว่า คำว่า “สาธารณภัย” ในทีนี้ มันรวมไปถึง “เรื่องการเมือง” ด้วย แล้วที่ออกมาช่วงนี้ ก็ตีความได้อย่างเดียวว่า แก้กฎหมายเพื่อรองรับการเลือกตั้ง .. อย่าลืมว่า กอ.รมน.มีตั้งแต่ระดับส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัด แถมมีกลไกรัฐทั้งทหาร ตำรวจ อัยการ กระทรวงมหาดไทย ไปอยู่ใต้ “อันเดอร์” .. การเพิ่มภารกิจหลังเพิ่งประกาศโหมดเลือกตั้ง และจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกไม่นาน มันก็ล่อนจ้อนกันแหละโยม .. อีกอย่างจริงๆ แล้ว “กอ.รมน.” ก็คือ “กองทัพบก” น่ะแหละ เพียงแต่เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเหมือนรองรับคนอกหักในช่วงที่ผ่านมา .. การเพิ่มภารกิจให้ กอ.รมน. มันก็เหมือนการเปิดช่องให้ “กองทัพบก” ใช้อำนาจผ่าน “กอ.รมน.” นั่นเอง.
ช.ชฎา