นายกรัฐมนตรี เผย “ประวิตร” สั่งรักษาราชการแทนจเรตำรวจ สอบส่วย 100 ล้าน ภูเก็ตแล้ว ไม่ต้องห่วง ตร. สอบกันปกติ ไม่ใช่ตัดสินกันเอง ปัดละเลยปราบโกง ชี้ มีหลายคดีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กังวลเรียกรับประโยชน์ระดับล่าง สั่งจัดชุดสายสืบพิเศษตรวจสอบ ย้ำ ร้านไม่ต้องจ่ายเงินใคร กำชับ รมต. คนใกล้ชิด ต้องไม่บิดเบือนเพื่อประโยชน์พวก ถ้าเจอลงโทษหมด
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกรับส่วยกว่า 100 ล้านบาท ที่จังหวัดภูเก็ต ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่สอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง และย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องตำรวจสอบตำรวจ เพราะถือว่าเป็นกลไกปกติ การตรวจสอบต้องไม่ทิ้งในทุกประเด็นออกไป ไม่ใช่ว่าจะตัดสินกันเองว่าผิดหรือถูก โดยทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ทั้งทุจริต เก็บส่วย ความเชื่อมโยงระหว่างตำรวจกับฝ่ายปกครอง การขัดแย้งผลประโยชน์ การซื้อขายตำแหน่ง ฯลฯ ทั้งนี้ สามารถส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้รัฐบาลและตำรวจได้ โดยทุกคนต้องช่วยกันดู ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ปล่อยปละละเลยในปัญหาการทุจริต หลายคดีได้นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ทั้งบุคคลทั่วไป นักการเมือง ซึ่งมีหลายคดีที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่สิ่งที่กังวลในวันนี้ คือ การเรียกรับผลประโยชน์ในระดับล่างหลายๆ หน่วยงาน โดยอ้างชื่อคนโน้นคนนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้จัดชุดสายสืบพิเศษลงไปตรวจสอบ ทั้งห้างร้านที่เคยถูกเรียกรับส่วยเดือนละ 3 พัน 5พันบาท ศุลกากร ให้ตรวจสอบทั้งหมด และขอประกาศว่าห้างร้านต่างๆ ไม่ต้องจ่ายเงินใครทั้งสิ้น ถ้าจับได้ตนจะลงโทษคนทำเป็นสองเท่า
“นอกจากนี้ ยังได้สั่งการในที่ประชุม ครม. โดยกำชับรัฐมนตรี ผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรี ว่า เมื่อสั่งการแล้ว สายงานจะต้องไม่ไปบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือพรรคพวก ถ้าเจอผมจะลงโทษทั้งหมด ผมเชื่อมั่นแต่ยังมีคนรอบๆ ตัวพวกเขาด้วย เพราะประเทศไทยมีระบบเครือญาติ หรือคนสนิท” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว