กก.ปฏิรูปการเมือง เชิญหัวหน้า ภท.ให้ข้อมูลปฏิรูป ก่อนประสานเสียงพร้อมเลือกตั้ง ภท.ยันไม่มีเรื่องแจ้งปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค ปลดล็อกหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหา ชี้อะไรอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญต้องปฏิบัติได้ ปัดไม่มีแนวคิดรวมพรรคกับทหาร
วันนี้ (21 พ.ย.) คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย เข้าให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการจัดแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง โดยนายเอนกกล่าวถึงการรับฟังความคิดเห็นของนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายนิกรมีความตั้งใจและเคยเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่รู้เรื่องของการปฏิรูปการเมือง การพูดคุยจึงได้ข้อมูลมาก โดยตนก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนายนิกรที่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความสามัคคีปรองดอง ยืนยันว่าการปฏิรูปไม่ใช่ทำจากบนลงล่างอย่างเดียว และผู้ที่คณะกรรมการเชิญมาในฐานะผู้นำทางการเมืองแต่ละคนมีความอาวุโส มีประสบการณ์ที่จะช่วยทำให้การเมืองมีความกลมเกลียวมากขึ้น
“ผมมองว่าความขัดแย้งบาดหมางลดลงเยอะมาก ทุกคนรอว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ โดยไม่ได้ห่วงเรื่องว่าจะมีการทะเลาะหรือขัดแย้งกัน เรื่องการสร้างความปรองดองก็ต้องสร้างไป การเลือกตั้งก็ต้องมี เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เชื่อว่าเมื่อเลือกตั้งความปรองดองก็จะเกิดขึ้นตามมา”
ส่วนเรื่องแก้ปัญหาความขัดแย้งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และ ป.ย.ป.ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้ง กกต.ที่กำลังจะมีการตั้งสถาบันวิทยาการพรรคการเมือง เข้าใจว่าคงมีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาอบรมในหลักสูตรด้วย และมองว่าบรรยากาศขณะนี้พร้อมที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลเองก็มีความตั้งใจที่จะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ต้องมีการปลดล็อกระดับหนึ่ง จึงอย่าร้อนรนที่จะเร่งให้มีการปลดล็อก เพราะทุกฝ่ายก็ตั้งใจอยากให้มีการเลือกตั้ง
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่คณะกรรมการฯ เปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมืองได้เสนอความคิดเห็น แม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม แต่เมื่อกฎมีกติกาแล้ว ก็ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไมได้ดำเนินกิจกรรมมา 3 ปี แต่เรื่องการรับสมัครสมาชิก หรือจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ปลดล็อกหรือไม่ก็ไม่มีปัญหา รวมทั้งการปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกให้เป็นปัจจุบันซึ่งต้องแจ้งตามกฎหมายภายใน 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องทำโดยพรรคมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการอัพเดทอยู่ตลอด และการเป็นพรรคขนาดกลางไม่เป็นปัญหาเหมือนพรรคขนาดใหญ่ดังนั้นจะปลดล็อคหรือไม่ในส่วนของภูมิใจไทยไม่มีปัญหา
ส่วนที่มีการเสนอแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนตัวก็เห็นว่าเราต้องยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญก็ต้องพร้อมทุกอย่าง ไม่ต้องแก้กฎหมาย ไม่ว่าจะเลือกตั้งภายใน 2 เดือนหรือ 9 เดือน รอระฆังตีเมื่อไหร่เราก็พร้อมไปชก บรรยากาศในขณะนี้ก็ถือว่าดีที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง กฎหมายก็มีเงื่อนไขของเวลากำหนดไว้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีใครทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือออกจากโรดแมปได้
“คนที่ทำให้เงื่อนเวลานี้หลุดไป ต้องตอบคำถามสังคมอย่างมาก คิดว่าไม่มีใครที่จะทำอย่างนั้นได้ เพราะนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้า คสช.ก็ให้คำมั่นสัญญาทั้งกับคนไทยและในเวทีนานาชาติ คนเราหากไม่มั่นใจก็คงจะไม่พูดอย่างนั้น ทุกอย่างอยู่ในรัฐธรรมนูญหมดแล้ว ใครจะมาพูดว่าชอบไม่ชอบแล้วต่อต้านก็ผิดกฎหมาย คนที่ชอบก็ลงเลือกตั้ง คนไม่ชอบก็ถอนตัวออกไป” นายอนุทินกล่าว และว่าในส่วนกระแสการควบรวมพรรคเพื่อให้เกิดพรรคทหาร สำหรับพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง กรรมการบริหารพรรคก็อยู่กับพรรคมานาน ฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยุบรวมกับใคร และเราก็มีชื่อพรรคและนโยบายที่เป็นเอกเทศ