หัวหน้า ปชป.ยันมีข้อมูลระดมคนตอบคำถามนายกฯ บี้ “บิ๊กป๊อก” ปราม หากไร้นโยบายให้ทำ ชี้ ยังไม่เห็นประโยชน์จากคำถาม เหตุทำ คสช.เป็นคู่ขัดแย้งใหม่ แนะถามเรื่องปากท้องดีกว่า เอือม คสช.กับบางพรรคกล่าวหาไปมาทำการเมืองวนอยู่ในปัญหาเดิม
วันนี้ (14 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุว่าไม่ได้มีการระดมคนไปตอบคำถาม 6 ข้อของนายกรัฐมนตรีว่า ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนและแวดวงราชการว่ามีการสื่อสารทางไลน์ให้จัดคนไป หากไม่ใช่นโยบายของกระทรวงมหาดไทยก็ขอให้พูดให้ชัดว่าอย่าทำอย่างนี้ เพราะลำพังการตั้งคำถามและใช้กลไกแบบนี้ก็ไม่เป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เนื่องจากคนที่รู้ว่าคำตอบจะไม่เป็นที่ถูกใจก็คงไม่นำบัตรประชาชนไปแสดงตัวเพื่อตอบคำถาม ทั้งนี้เห็นว่าควรจะถามประชาชนในเรื่องปากท้อง และถามเกษตรกรว่าทำอย่างไรจะให้ราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น ถามคนยากคนจนว่าใช้บัตรสวัสดิการของรัฐแล้วไปติดขัด ไม่สะดวกอย่างไร การจำกัดเฉพาะร้านธงฟ้าทำให้มีปัญหาอะไรบ้าง ถามร้านค้าเล็กๆ ที่บอกว่ากำลังแย่เพราะผู้มีรายได้น้อยต้องไปซื้อเฉพาะร้านธงฟ้าทำให้เงินไหลเวียนในชุมชนน้อยลงจะแก้ไขอย่างไร และเห็นว่าควรใช้ทรัพยากรของรัฐไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชนจะดีกว่า เพราะการถามเช่นนี้ก็ไม่ทราบว่าจะได้ประโยชน์อะไร
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ที่ท้วงติงเรื่อง 6 คำถามของนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ได้ลงรายละเอียดในตัวคำถาม แต่ไม่อยากให้ คสช.นำตัวเองเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ สร้างการเผชิญหน้ากับนักการเมืองและพรรคการเมืองโดยรวม เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับใคร ตนพูดมาตลอดว่านักการเมืองมีทั้งดีและชั่ว บ้านเมืองมาถึงตรงนี้ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบและปรับปรุงตัว แต่การเหมารวมชี้หน้ากล่าวหาไม่ได้เป็นประโยชน์ ถ้าอยากสร้างการเมืองใหม่ให้หลุดพ้นจากของเดิมคงไม่ได้สร้างด้วยการทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม หรือมีคู่ขัดแย้งใหม่เกิดขึ้น หรือสร้างเงื่อนไขการเผชิญหน้าใหม่เกิดขึ้น เพราะจะวนเวียนอยู่กับปัญหาเหล่านี้ ซึ่งตนเบื่อเหมือนกันที่บางพรรคด่า คสช.อย่างเดียวว่าเผด็จการ ส่วน คสช.ก็ชี้หน้ากลับมาว่านักการเมืองก็เลวหมด แล้วประเทศจะเดินไปทางไหน ควรช่วยกันปรับปรุงมากกว่าจะชี้หน้ากล่าวหาแบบเหมารวม