ศาลปกครองกลาง พิพากษาเลขาธิการ กพฐ. และ สพป.กทม. ละเลยต่อหน้าที่พิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนและคำขอจัดตั้งศูนย์การเรียนก่อนประถมวัย มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลาม ล่าช้า สั่งแจ้งผลคำขออนุญาต และ ผลการพิจารณาจัดสรรเงินหนุนให้เสร็จใน 60 วัน
วันนี้ (9 พ.ย.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร (สพป.กทม.) พิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำขออนุญาตจัดตั้งศูนย์การเรียนในระดับก่อนประถมศึกษาของมูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลาม ให้มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามทราบ และให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนสำหรับการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาให้แก่มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามต่อ สพป.กทม. เพื่อแจ้งให้มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลาม โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
โดยศาลให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงคดีนี้รับฟังได้ว่าการที่มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามได้ยื่นเอกสารขอจัดตั้งศูนย์การเรียนในระดับก่อนประถมศึกษาต่อ สพป.กทม. เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2557 แต่ สพป.กทม. ยังไม่มีการพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามทราบ ถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร และการที่ เลขาธิการ กพฐ. ยังไม่ดำเนินการพิจารณาจัดสรรงบประมาณงบเงินอุดหนุนสำหรับการจัดการศึกษาแก่ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 26 คน แก่มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลาม ตามที่กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. 2555 กำหนด ถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามกกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
สำหรับคดีดังกล่าว มูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลาม และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้อง สพป.กทม., เลขาธิการ กพฐ. และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ไม่ได้ดำเนินการพิจารณาคำขอจัดตั้งศูนย์การเรียนในระดับก่อนประถมศึกษาของมูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามภายในเวลาอันสมควร และไม่ดำเนินการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการจัดการศึกษา ในระดับประถมศึกษาของมูลนิธิตัรบียะตุ้ลอิสลามตามที่กฎหมายกำหนด