นายกรัฐมนตรี แนะสื่อช่วยพัฒนาสังคม อย่ามองแต่การเมือง อย่ามองรัฐบาลปิดกั้น ช่วยลดคำหยาบ จวกพวกดูแคลน “ตูน บอดี้สแลม” ซัดมีแต่คนผลักภาระมาให้รัฐ ใครช่วยกันได้คนละไม้คนละมือก็ทำไป หยุดตรงไหนก็ให้กำลังใจเขา
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขอให้สื่อช่วยกันพัฒนา ทำให้สังคมปลอดภัยเข้มแข็ง ประชาชนอยู่ในความสงบเรียบร้อย อย่ามองการเมืองแต่เพียงอย่างเดียว และการเสนอข่าวบางครั้งก็มาจากคำเล่าลือ คำกล่าวอ้าง หรือโซเชียลมีเดียบ้าง เมื่อวันที่ 6 พ.ย. มีอดีตนักการเมืองออกมาพูดว่าข้อมูลได้มาจากสื่อเรื่องการตั้งพรรคการเมืองทหารโดย คสช. กลุ่มพลังชาติไทยถามว่ามาจากไหน สื่อเขาก็ถามอยู่ นี่ก็บอกว่าได้มาจากสื่ออย่างนี้มันไม่ได้ ถ้ายังฟังโซเชียลมีเดียอย่างเดียว ลองเปิดดู ท่านก็เห็น มันห้ามลำบาก คนทุกคนจะเขียนอะไรก็ได้ทั้งนั้น แล้วเราก็ไปแตะต้องไม่ได้ ว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน มันก็ลำบาก วันหน้าต้องช่วยกันระวัง เรื่องการใช้โซเชียลมีเดียปลุกปั่นระดมคนสนับสนุนเงินทอน ต่างประเทศเกิดมาแล้ว เขากำลังมีปัญหาทั้งหมด อย่าไปมองว่ารัฐบาลปิดกั้น ถ้าปิดกั้นตนปิดกั้นไปตั้งนานแล้ว ช่วยลดๆ กันหน่อย คำหยาบคาย เสื่อมเสียศีลธรรม คำเหล่านี้มันมีอยู่ในเว็บ ในเฟซบุ๊กทั้งนั้น ก็ขอให้สื่อเป็นสื่อที่มีคุณภาพ คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ช่วยกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อย่ามามองงานการเมืองอย่างเดียว ไฮไลต์กันไปกันมามันก็ไม่เกิดประโยชน์ อะไรที่เป็นเจตนาบริสุทธิ์ตนก็รับได้ ถ้าไม่บริสุทธิ์มา ดูก็รู้แล้ว ตนไม่ใช่ศัตรูของท่าน การทำงานของสื่อขอให้ทำเพื่อชาติบ้านเมืองก็แล้วกัน ไม่ต้องทำเพื่อตน เพื่อ คสช. ก็ไม่ต้อง คสช. และตนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้มากขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” วิ่ง 2,191 กิโลเมตรของ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ว่า ก็เห็นเขาวิ่งไหม เขาวิ่งกี่ร้อยกิโลเมตรแล้ว มีใครเคยวิ่งได้ไหม 1 - 2 ร้อยกิโลเมตร ตั้งเป้าหมายไว้ 2,191 กิโลเมตร พยายามจะทำให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องให้กำลังใจ วันนี้เขาวิ่ง 2 -3 หรือ 4 ร้อยกิโลเมตรแล้ว จะหยุดก็ให้เขาหยุดไป ทำไมจะต้องไปดูถูกดูแคลนเขาว่าโธ่เอ้ยจะวิ่งไปทำไม รัฐบาลปล่อยให้เขาวิ่งไปทำไม ก็เขามาช่วยรัฐบาล มาช่วยกระทรวงสาธารณสุข มีใครจะวิ่งอย่างเขาไหมหรือ ทำอย่างอื่นก็ได้ที่ให้เกิดประโยชน์กับโรงพยาบาล มีแต่ทุกคนผลักภาระให้รัฐบาลหมด ใครช่วยกันได้คนละไม้คนละมือก็ทำไป ถ้าเขาหยุดตรงไหนก็ให้กำลังใจเขาไปดูแลเขาหาแพทย์หาหมอจะพักไปเท่าไหร่ก็ได้แล้วก็มาวิ่งต่อใหม่วันหน้าจะวิ่งอีกสักเดือนก็วิ่งต่อ ทำไมจะต้องไปอะไรกับเขาหนักหนา คนดีๆ ก็เลยไม่ต้องทำอะไรกันเลย ทุกคนก็ชินอยู่กับเรื่องเก่าๆ วิธีการเดิมๆ คนเดิมออกพูดจาก็เชื่อกันอยู่นั่น