“กกต.สมชัย” มอง กรธ.กำหนด กปน.น้อยเกิน หวั่นถูกกลุ่มอิทธิพลซื้อยกหน่วย ระบุการลดจำนวนหน่วยเลือกตั้งอาจเป็นอุปสรรคการใช้สิทธิของประชาชน
วันนี้ (5 พ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุถึงการกำหนดให้เพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงเป็น 1,000 คนต่อ 1 หน่วยเลือกตั้ง ว่าที่ผ่านมาในอดีต กกต.ได้ใช้เกณฑ์ผู้มีสิทธิออกเสียง 600-800 คน การเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิต่อหน่วยเป็น 1,000 คน ทำให้เกิดผลที่ตามมาหลายประการ เช่น จำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งประเทศจะน้อยลง จากที่เคยมีหน่วยเลือกตั้งทั้งประเทศประมาณ 95,000 หน่วย อาจลดลงเหลือประมาณ 60,000 หน่วย หมายความประชาชนจะต้องเดินทางไปหน่วยเลือกตั้งด้วยระยะทางที่ไกลขึ้น หน่วยออกเสียงที่เคยกระจายครอบคลุมพื้นที่ อาจตั้งอยู่ห่างกันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่ตั้ง อาจเป็นอุปสรรคต่อการไปใช้สิทธิ ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ต่อแถวใช้สิทธิในวันเลือกตั้งจะยาวขึ้น ความสะดวกในการใช้สิทธิจะลดลง
“กกต.ชุดนี้พยายามให้แนวคิดแก่สำนักงานในด้านการอำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมให้คนมาใช้สิทธิมากขึ้น แต่การออกแบบใหม่ของ กรธ.ยิ่งเป็นอุปสรรคในการใช้สิทธิของประชาชน ในประเด็นนี้ กกต.เคยให้ความเห็นแก่ กรธ.ไปแล้ว แต่เมื่อยังออกกฎหมายให้เป็นตามนี้ กกต.ก็พร้อมรับมาปฏิบัติ โดยไม่มีความเห็นขัดแย้งว่า เป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่วันเลือกตั้ง หากคนมาใช้สิทธิน้อยและต่อแถวยาว ควรทราบว่าใครเป็นสาเหตุ”
ส่วนการกำหนดให้ลดกรรมการประจำหน่วย ที่ในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กำหนดว่า กรรมการประจำหน่วยจากเดิม ไม่น้อยกว่า 9 คน เหลือไม่น้อยกว่า 5 คน ยกเว้นหน่วยที่มีผู้มีสิทธิเกินกว่า 800 คน อาจเพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วยได้ตามความเหมาะสม วิธีคิดดังกล่าว ดูเหมือนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกรรมการประจำหน่วยที่ใช้คนน้อยลง แต่ในความเป็นจริงจะเป็นปัญหาอุปสรรคในการทำงานมากกว่า เนื่องจากมีการขยายเวลาในการเลือกตั้งออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง ถึง 16.00 น. และกำหนดจำนวนผู้มีสิทธิต่อหน่วยเพิ่มขึ้นอาจทำให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่มีไม่เพียงพอ และไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน หรือถึงขนาดการซื้อกรรมการยกหน่วย โดยผู้มีอำนาจอิทธิพล อาจกระทำได้ง่ายขึ้น ซึ่ง กกต.เคยทักท้วงแล้ว แต่เมื่อ กรธ.ยืนความเห็นดังกล่าว กกต.ก็พร้อมรับปฏิบัติ โดยไม่ถือเป็นประเด็นที่ขัดรัฐธรรมนูญ