รองโฆษก ปชป.ยกคำสั่งศาลคดี “ลูกทักษิณ” จี้คลังตั้งเรื่องเรียกคืนเงินเลี่ยงภาษีขายหุ้นชินฯ 1.6 หมื่นล้านบาทคืนหลวง
วันนี้ (19 ต.ค.) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร, น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร จำเลยที่1-4 รวมทั้ง น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ จากกรณีภาษีหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนางเบญจาและอดีตข้าราชการคนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วน น.ส.ปราณี ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ในฐานะเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบนั้นว่า ในท้ายคำพิพากษาศาลชัดเจนว่าเป็นการเอื้อประโยชน์และทำให้รัฐเสียหาย เท่ากับว่ารัฐโดยกระทรวงการคลังสามารถตั้งเรื่องเรียกคืนค่าเสียหายนี้จากผู้ต้องหาเป็นการชดเชยได้ ขณะเดียวกันต้องทำหน้าที่นำค่าเสียหายจากกรณีการเลี่ยงภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คืนมาจากผู้เกี่ยวข้อง
“กรณีนี้การซื้อขายหุ้นดังกล่าวของนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร เป็นการหลบเลี่ยงภาษีที่ต้องจัดเก็บจำนวนคนละ 7,941 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,882 ล้านบาท เงินจำนวนนี้พร้อมดอกผลเป็นของรัฐและแผ่นดินที่ต้องนำไปเป็นงบประมาณดูแลประชาชนไม่ใช่ถูกเลี่ยงไปเป็นเงินส่วนตัวด้วยการทุจริตเช่นนี้” นางมัลลิกากล่าว