ราชกิจจาฯ เผยแพร่ พ.ร.ฎ. เวนคืนที่ดินบางใหญ่ - กาญจนบุรี กว่า 3,727 ราย พื้นที่ 6,808.5 ไร่ วงเงิน 4,851 ล้านบาท สร้างทางหลวงพิเศษ “มอเตอร์เวย์” หมายเลข 81 มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท เผยเตรียมผุดแผน 15 ปี โครงการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตก “เพชรบุรี - ระนอง วงเงิน 5,184 ล้านบาท
วันนี้ (16 ต.ค.) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี พ.ศ. 2560 มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อำเภอพุทธมณฑล อำเภอนครชัยศรี อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มีส่วนแคบที่สุดสี่ร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยเมตร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กับมาตรา 5 วรรคสาม และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ประกอบกับมาตรา 68/1 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสี่ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ให้อธิบดีกรมทางหลวงเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืน โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
มีรายงานว่า สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ - นครปฐม - เมืองกาญจน์ ใช้เงินลงทุน 45,886 ล้านบาท แยกเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 4,851 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 40,495 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 540 ล้านบาท”
ล่าสุด บริษัทที่ปรึกษาเก็บข้อมูลการเวนคืนที่ดิน ของกรมทางกลวงชนบท ในแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ บางใหญ่ - นครปฐม - กาญจนบุรี แนวเส้นทาง จะพาดผ่านพื้นที่ประมาณ 27 ตำบล 7 อำเภอ ใน 4 จังหวัด คือ นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และ กาญจนบุรี มีผู้ถูกเวนคืน 3,727 ราย คิดเป็นเนื้อที่ 6,808.5 ไร่ เนื่องจากเป็นถนนตัดใหม่จะต้องเวนคืนที่ดินจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นที่ดินส่วนบุคคล และมีบางแปลงไม่มีชื่อเจ้าของ ราคาที่ดินช่วงที่เก็บข้อมูล ปี 2552 ราคาสูงสุดอยู่ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง และ อ.บางใหญ่ เฉลี่ย 1 - 8 หมื่นบาท / ตร.ว. ส่วนพื้นที่อื่น จาก จ.นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี ราคาระดับ 100 บาท จนถึงหลายพันบาท / ตร.ว.
สำหรับพื้นที่ถูกเวนคืน ประกอบด้วย จ.นนทบุรี อ.บางใหญ่ อำเภอบางบัวทอง โดยมีผู้ครอบครอง เช่น
บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ นายสิภูมิ นาคฉัตรีย์ บุตรชาย นายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, โรงพยาบาลรัตนาธิเบศร์, บางใหญ่เรียลเอสเตท,
บางใหญ่ โกลเด้นแลนด์ เป็นต้น พื้นที่ จ.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม อ.นครชัยศรี อ.พุทธมณฑล โดยมีผู้ครอบครอง เช่น นายหรั่ง กรรณวัฒน์, บริษัท ประมวลผล, บจ.บริหารสินทรัพย์เพทาย, บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย, บ.ปาร์คโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท, บ.เซ็นทรัลกอล์ฟ เป็นต้น ส่วนพื้นที่ จ.ราชบุรี มี อ.บ้านโป่ง โดยมีผู้ครอบครอง เช่น มีชื่อ พ.ต.ท.วีระพงษ์ วังตาล เป็นเจ้าของที่ดินกว่า 200 ไร่ รวมถึงที่ดินของตระกูลว่องกุศลกิจ สุดท้าย จ.กาญจนบุรีมี อ.ท่ามะกา มีชื่อเจ้าของที่ดิน ตระกูลวังตาล เป็นต้น
สำหรับ พระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินบริเวณที่จะก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่ - นครปฐม - กาญจนบุรี ระยะทางรวม 98 กม. เป็นโครงข่ายเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันตก รวมถึงรองรับการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าในอนาคต มีรูปแบบการลงทุนให้เอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP โดยเอกชนลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดเก็บรายได้ค่าผ่านทาง รัฐลงทุนเฉพาะค่าเวนคืนที่ดิน หรือให้เอกชนลงทุนทั้ง 100% แล้วรัฐจ่ายเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหลังปีที่ 5 เป็นต้นไป
มีรายงานด้วยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังมีแผนดำเนินโครงการ พัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี - จังหวัดระนอง ในช่วงปี 2552 - 2565 รวมวงเงิน 5,184 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่ง ทั้งสิ้น 56 โครงการ ระยะทางรวม 492.5 กม. ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี 5 โครงการ ระยะทาง 78.4 กิโลเมตร วงเงิน 626 ล้านบาท จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 179 กิโลเมตร วงเงิน 2,383 ล้านบาท จังหวัดชุมพร ระยะทาง 194 กิโลเมตร วงเงิน 1,822 ล้านบาท จังหวัดระนอง ระยะทาง 48 กิโลเมตร วงเงิน 352 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทช. ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้ว 15 โครงการ วงเงิน 1,001 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 โครงการวงเงิน 718 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ได้รับงบประมาณ ปี 2561 เพื่อดำเนินการ คือ ถนนสายบ้านสระน้อย - บ้านปากน้ำปราน ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 110 ล้านบาท