เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ เห็นพ้องยินดีสัมพันธ์สองชาติ หวังเกิดความร่วมมือระหว่างกันในมิติใหม่ๆ พร้อมหารือลงทุนเชิญชวนลงทุนในไทย
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 13.30 น. นางเอฟเรน ดาเดเลน อักกุน (H.E. Ms. Evren Dağdelen Akgün) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตตุรกีฯ ในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย และแสดงความขอบคุณตุรกีที่ได้มีสาส์นแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสที่ขึ้นทรงราชย์ด้วย ในด้านความสัมพันธ์ นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตตุรกีฯ ต่างรู้สึกยินดีที่ไทยและตุรกีมีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ราบรื่นและใกล้ชิดโดยในปี 2561 จะครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ จึงต่างหวังว่าจะเป็นปีที่เริ่มต้นความร่วมมือระหว่างกันในมิติใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีขอให้เอกอัครราชทูตฯ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งครั้งแรกด้วยความราบรื่นและเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและตุรกีให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น
ด้านเอกอัครราชทูตตุรกีฯ กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ซึ่งอยู่ในช่วงสัปดาห์ของการครบรอบหนึ่งปีการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตในประเทศไทยเป็นประเทศแรก และยืนยันว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นทั้งทางด้านความมั่นคง การต่อต้านการก่อการร้าย การเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน การศึกษา และการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตตุรกีฯ ยังหารือในเรื่องความร่วมมือทางด้านการลงทุนและความร่วมมือในระดับพหุภาคี นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมตุรกีที่มีอุตสาหกรรมก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลก จึงขอให้เอกอัครราชทูตตุรกีฯ ผลักดันให้นักธุรกิจตุรกีเข้ามาลงทุนในด้านนี้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ซึ่งทางเอกอัครราชทูตตุรกีฯ ยินดีสนับสนุนอย่างยิ่งให้นักธุรกิจตุรกีเข้ามาลงทุนใน EEC โดยจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อขอข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป ในเรื่องความร่วมมือในระดับพหุภาคี เอกอัครราชทูตตุรกีฯ กล่าวชื่นชมไทยว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในระดับภูมิภาค และนโยบาย “Thailand+1” สอดคล้องกับนโยบายของตุรกีที่ขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน ตุรกีจึงหวังว่าไทยจะให้การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างตุรกีในกรอบอาเซียนมากยิ่งขึ้น