มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ให้พรรคมีทุนประเดิม 1 ล้าน หาสมาชิกเริ่มแรก 500 คน อนุโลมเก็บค่าบำรุงพรรคปีแรก 50 บาท ส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตผ่านระบบไพรมารีโหวต
วันนี้ (7 ต.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560 มีทั้งหมด 152 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ การจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องมีทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ร่วมกันจัดตั้งทุกคนต้องร่วมกันจ่ายเงินเพื่อเป็นทุนประเดิมคนละไม่น้อยกว่า 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ก่อนยื่นคําขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคผู้ร่วมกันจัดตั้งต้องประชุมร่วมกันโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 250 คน
ใน 1 ปีต้องดําเนินการให้มีจํานวนสมาชิกไม่น้อยกว่า 5,000 คน และต้องเพิ่มจํานวนสมาชิกให้มีจํานวนไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปี ให้มีสาขาพรรคในแต่ละภาคอย่างน้อยภาคละหนึ่งสาขา มีสมาชิกตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป ถ้าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตต้องมีสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจําจังหวัด ให้พรรคส่งผู้สมัครจากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาหรือตัวแทน ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคจัดทําบัญชีเพื่อส่งให้สาขาหรือตัวแทน โดยคํานึงถึงผู้สมัครจากภูมิภาคต่างๆ และความเท่าเทียมชายหญิง โดยหัวหน้าพรรคอยู่ในบัญชีลำดับที่ 1 ห้ามกรรมการบริหารพรรคยินยอมให้บุคคลภายนอก เข้าควบคุม ครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจการของพรรค ให้บริจาคได้คนละไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปีต่อพรรค ขณะที่บทลงโทษมีทั้งหมด 40 มาตรา ตั้งแต่หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร สมาชิก ไปจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งปรับ จำคุก ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง และยุบพรรค
นอกจากนี้ยังมีบทเฉพาะกาลให้พรรคที่จัดตั้งและยังดํารงอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.ป.ใช้บังคับ เป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่ดํารงตําแหน่งอยู่ยังดำรงตำแหน่ง แต่ให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกให้นายทะเบียนทราบภายใน 90 วันนับ ดําเนินการให้มีสมาชิกให้ครบ 500 คนภายใน 180 วัน จัดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท ใน 180 วัน ให้สมาชิกชําระค่าบํารุงพรรคให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คนใน 1 ปี ไม่น้อยกว่า 10,000 คนใน 4 ปี จัดประชุมใหญ่พรรคภายใน 180 วัน ตั้งสาขาพรรค และตัวแทนพรรคประจําจังหวัดให้ครบภายใน 180 วัน อาจทําหนังสือขอขยายเวลาออกไปได้ แต่ต้องไม่เกิน 3 ปี ระหว่างนี้ห้ามมิให้จัดสรรเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองให้แก่พรรคนั้น
ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก หากพรรคใดได้จัดตั้งสาขาหรือตัวแทนไว้แล้วให้พรรคนั้นสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น, เรียกเก็บค่าบํารุงพรรคการเมืองสําหรับปีแรกต้องไม่น้อยกว่า 50 บาท
