อดีต ส.ส.ปชป.มองการโอนภารกิจ สตช.ต้องให้เวลาหน่วยงานที่รับโอนเตรียมการ กำหนดให้ชัด จี้รัฐหนุนคน-งบ ให้เกิดการปฏิรูปแท้จริง ติงไม่มีการโอนถ่ายอำนาจท้องถิ่นเลย ดัก คกก.ปฏิรูปตำรวจทำเพื่อ ปชช.ไม่ใช่ตำรวจเอง
วันนี้ (28 ก.ย.) นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการตำรวจจะโอนภารกิจ 11 ด้านออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล แต่หลายกระทรวงหรือหน่วยงานนั้นๆ ต่างระบุ ไม่มีความพร้อมว่า ในการโอนภารกิจที่ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ควรให้เวลาหน่วยงานต่างๆ ที่จะรับถ่ายโอนได้เตรียมการ โดยการกำหนดระยะเวลาในการถ่ายโอนให้ชัดเจน ไม่ใช่ไปสอบถามว่ามีความพร้อมที่จะรับโอนหรือไม่ เพราะหน่วยงานเหล่านี้จะอ้างว่าขาดกำลังคน ขาดงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลควรต้องสนับสนุนเรื่องเหล่านี้ให้เกิดการปฏิรูปจริงเป็นรูปธรรม ที่สำคัญในแผนการปฏิรูปครั้งนี้กลับไม่มีการระบุถึงการโอนถ่ายอำนาจหน้าที่ให้หน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเลย ทั้งที่ กทม. เมืองพัทยา เทศบาลนคร เทศบาลเมืองต่างมีความพร้อม เช่น งานควบคุมอาคาร งานสาธารณสุข งานรักษาความสะอาด หรือการปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งมีคดีมะโนสาเร่เหล่านี้ค้างนับหมื่นคดี
นายถวิลยังตั้งข้อสังเกตต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุด พล.อ.บุญสร้าง ว่าเคยมีตัวอย่างมาแล้วในกฎหมาย 2 ฉบับที่กำหนดให้มีการถ่ายโอนงานของ สตช. คือ 1. กฎหมายปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 56 บัญญัติว่า ภายใน 2 ปีนับแต่ใช้ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับให้รัฐบาลเสนอกฎหมายเพื่อโอนภารกิจของ สตช.ที่ไม่ใช่ภารกิจหลัก ให้เป็นของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อลดภารกิจในพื้นที่ตามความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2. พ.ร.บ.ตำรวจปี 2547 มาตรา 6 บัญญัติให้ สนช.จะออกพระราชกฤษฎีกาโอนอำนาจหน้าที่ให้หน่วยงานอื่นของรัฐ ถามว่ากว่า 10 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินการใดๆ ฉะนั้น คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจต้องหามาตรการบังคับให้เกิดการปฏิรูปตำรวจครั้งนี้เป็นการปฏิรูปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อตำรวจเอง