อนุกรรมการปฏิรูปตำรวจ เสนอเพิ่มหน่วยสอบสวนขึ้นตรง อสส. เพื่อถ่วงดุลงานสอบสวนของ สตช. กรณีคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้เป็นการผ่าตัดใหญ่ ไม่ทำเสียโอกาสการปฏิรูป
วันนี้ (22 ก.ย.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำข้อเสนอของคณะอนุกรรมการการปฏิรูปตำรวจในส่วนของงานสอบสวน เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง.(2) ที่บัญญัติให้มีการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ที่ให้มีการปฏิรูปกระบวนการสอบสวนคดีอาญาให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการอย่างเหมาะสม อันจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการในการสอบสวนคดีอาญา ตนขอเสนอให้มีหน่วยสอบสวนที่ขึ้นตรงกับสำนักงานอัยการสูงสุด แยกแท่งออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เท่ากับว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะมีพนักงานสอบสวนเป็นของตัวเอง ที่จะคอยตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของพนักงานสอบสวนของ สตช.โดยพนักงานสอบสวนของพนักงานอัยการ ไม่มีชั้นยศมีอำนาจเข้าไปทำหน้าที่สอบสวนคดีที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือคดีที่พนักงานอัยการเห็นควรให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือคดีสำคัญที่อัยการเห็นควรให้เข้าไปร่วมสอบสวนด้วย
นายเสรีกล่าวว่า ในเบื้องต้นหรือในวาระเริ่มแรกคงให้สิทธิพนักงานสอบสวนเดิมสามารถเลือกได้ว่าประสงค์จะเป็นพนักงานสอบสวนที่ขึ้นอยู่กับ สตช. หรือจะไปขึ้นอยู่กับสำนักงานอัยการสูงสุด ในอนาคตหากพนักงานสอบสวนของ สตช.ทำงานแล้วไม่มีประสิทธิภาพจริงหรืองานสอบสวนควรแยกออกจาก สตช.ทั้งหมด ก็จะเกิดการพัฒนาให้มีการแยกงานสอบสวนทั้งหมดออกไปจาก สตช.ไปขึ้นกับสำนักงานอัยการสูงสุดได้ คือเป็นการเอาผลงานมาวัดกันเป็นเครื่องพิสูจน์
“ข้อเสนอดังกล่าวนี้เท่ากับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปหรือเป็นการฝ่าตัดใหญ่ของงานสอบสวนของตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ หากในภาวะอย่างนี้ไม่ยอมที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็จะทำให้เสียโอกาสการปฏิรูปตำรวจ” นายเสรีกล่าว