ผู้ใหญ่บ้านระนอง ร้อง “ประยุทธ์” ผู้มีอิทธิพล-บิ๊กข้าราชการ บุกรุกพื้นที่สาธารณะ-ป่าสงวน ปลูกปาล์มน้ำมันและยางพารา กลับมาใช้ถนนที่เทศบาลสร้างเข้าพื้นที่ทั้งที่ถูกห้าม
วันนี้ (22 ก.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.บางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีผู้มีอิทธิพลและข้าราชการท้องถิ่นระดับสูงบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เต็มพื้นที่จำนวน 1,200 ไร่ เข้าปลูกปาล์มน้ำมันและยางพารา ในท้องที่ ต.บางพระใต้ โดยต้องการให้นายกฯ ให้ช่วยเหลือเป็นการด่วน
น.ส.สุวรรธนากล่าวว่า เทศบาลตำบลละอุ่นได้ก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในซอยพม่าข้าม โดยใช้งบประมาณ 3 ล้านบาทเข้าไปในสวนยางพารา และสวนปาล์มของข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเมื่อนำเรื่องไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จนได้ดำเนินการลงพื้นที่พร้อมกับชุดเฉพาะกิจแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐกองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 44 เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยขณะนั้นมีมติและคำสั่งห้ามใช้ถนนดังกล่าว และนำแท่นปูนแบริเออร์มากั้น แต่ปัจจุบันพบว่ายังมีการเคลื่อนย้ายแท่นปูนดังกล่าวออกไป และมีประชาชน แรงงานต่างด้าว รวมถึงผู้มีอิทธิพลเข้าบุกรุกเพื่อแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่ เนื่องจากมณฑลทหารบกที่ 44 ไม่ได้รับผิดชอบพื้นที่นี้แล้ว ตนในฐานะผู้ดูแลชุมชน และผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวจึงอยากนายกฯ แก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จ โดยเห็นว่าควรตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา และประสานการทำงานกับชุดเฉพาะกิจแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐฯ
วันนี้ (22 ก.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.บางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีผู้มีอิทธิพลและข้าราชการท้องถิ่นระดับสูงบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เต็มพื้นที่จำนวน 1,200 ไร่ เข้าปลูกปาล์มน้ำมันและยางพารา ในท้องที่ ต.บางพระใต้ โดยต้องการให้นายกฯ ให้ช่วยเหลือเป็นการด่วน
น.ส.สุวรรธนากล่าวว่า เทศบาลตำบลละอุ่นได้ก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในซอยพม่าข้าม โดยใช้งบประมาณ 3 ล้านบาทเข้าไปในสวนยางพารา และสวนปาล์มของข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเมื่อนำเรื่องไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จนได้ดำเนินการลงพื้นที่พร้อมกับชุดเฉพาะกิจแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐกองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 44 เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยขณะนั้นมีมติและคำสั่งห้ามใช้ถนนดังกล่าว และนำแท่นปูนแบริเออร์มากั้น แต่ปัจจุบันพบว่ายังมีการเคลื่อนย้ายแท่นปูนดังกล่าวออกไป และมีประชาชน แรงงานต่างด้าว รวมถึงผู้มีอิทธิพลเข้าบุกรุกเพื่อแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่ เนื่องจากมณฑลทหารบกที่ 44 ไม่ได้รับผิดชอบพื้นที่นี้แล้ว ตนในฐานะผู้ดูแลชุมชน และผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวจึงอยากนายกฯ แก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จ โดยเห็นว่าควรตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา และประสานการทำงานกับชุดเฉพาะกิจแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐฯ