“บิ๊กป๊อก” อ้างตอนจัดซื้อเรือเหาะไม่ได้พิจารณาโดยตรง เช็กแค่สมัยตนไม่ได้ หนุนสอบโกง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจงปมเรือเหาะ ไม่รู้ใครประเมินประสิทธิภาพ ยันกล้อง 5 ตัว 250 ล้าน ยังใช้งานได้ ส่วนเรืออยู่โรงเก็บ หนุนร้อง ทบ. สอบทุจริต อ้างพ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ. มานานจึงบอกไม่ได้เปลี่ยนสภาพแบบใดบ้าง ระบุตอนจัดซื้อไม่ได้พิจารณาโดยตรง เช็กเฉพาะสมัยตนไม่ได้ แนะศึกษาให้ครบถ้วน อ้างกลับไปถามไม่ได้เหตุไร้อำนาจสั่งการ

วันนี้ (15 ก.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงกรณีที่กองทัพบกปลดระวางการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์ เนื่องจากหมดอายุใช้งาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณจัดซื้อที่สูง และประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่คุ้มค่า ว่า ไม่ทราบใครเป็นผู้ประเมินประสิทธิภาพของเรือเหาะ แต่ย้ำมูลค่าจัดซื้อรวม 350 ล้านบาท แบ่งเป็นราคาตัวกล้อง 250 ล้านบาท จำนวน 5 ตัว ซึ่งขณะนี้ตัวกล้องยังสามารถใช้การได้ดี โดยติดไว้กับแท่น ฮ. 3 ลำ ส่วนอีก 2 กล้องติดอยู่ที่เรือเหาะ ซึ่งยังใช้การได้ ขณะที่ตัวเรือเหาะและโรงเก็บราคาอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการประเมินคุณภาพใช้การได้หรือไม่อยู่ที่กองทัพบก รวมไปถึงอาจมีการพิจารณาเรื่องการทุจริต ซึ่งเป็นอีกเรื่องหากมีการร้องเรียน

“ส่วนตัวผมเห็นด้วยหากมีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทุจริต เพราะจะได้ไม่นำมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล แม้การจัดซื้อเรือเหาะจะเกิดขึ้นในสมัยที่ผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แต่เมื่อตรวจสอบก็ต้องไปดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้างทั้งการรับของ การทำสัญญา รวมถึงผู้ใช้งาน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตนพ้นจากตำแหน่งมานานแล้ว จึงบอกไม่ได้ว่าหากมีการปรับเปลี่ยนสภาพการใช้งานของเรือเหาะตรวจการณ์จะทำได้ในรูปแบบใดบ้าง เพราะช่วงของการจัดซื้อ ตนไม่ได้เป็นผู้พิจารณาโดยตรง ฉะนั้น จะต้องตรวจผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตรวจสอบเฉพาะเกิดในสมัยตนอย่างเดียวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น ก็เข้าใจโครงการจัดซื้อนี้ผิดไปด้วย และอย่าใช้ความรู้ประเมินความคุ้มค่า ขณะเดียวกันหากจะให้ตนไปสอบถามเรื่องนี้ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตนไม่มีอำนาจสั่งการในกองทัพบก