อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เสียดายความรู้ “ชูศักดิ์” ไม่หนักแน่นเหมือนสมัยเป็นอาจารย์ สวนทีอัยการซี้ “ยิ่งลักษณ์” นั่งคณะทำงานคดี “พานทองแท้” กลับไม่เคยติง ซัดเห็นกงจักรเป็นดอกบัว สงสัยสมัยเป็นอธิการบดีรามฯ ทำไมเซ็นใบปริญญาให้ “โอ๊ค” ที่โกงข้อสอบแนะดีเอสไอถ่ายสำเนาเช็คกฤษดานครสั่งจ่ายลูก “แม้ว” โชว์ชาวบ้าน
วันนี้ (10 ก.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยออกมาตั้งคำถามกล่าวหากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถูกแทรกแซงและถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ดำเนินคดีต่อนายพานทองแท้ ชินวัตร กรณีรับเงินจากกลุ่มกฤษดานครที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ตามคำสั่งของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่านายชูศักดิ์เป็นอาจารย์ที่เคยสอนตนสมัยเป็นนักศึกษาในวิชากฎหมายแพ่งว่าด้วยละเมิด และเคยเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อมาก็ไปเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย น่าเสียดายในความเป็นครูบาอาจารย์เมื่อมาเป็นนักการเมือง ความน่าเชื่อถือของนายชูศักดิ์ก็ไม่หนักแน่นเหมือนสมัยอาจารย์สอนวิชากฎหมาย
นายวัชระกล่าวว่า การที่นายชูศักดิ์อ้างว่า พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ และพนักงานอัยการ ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนมีมติยุติข้อหารับของโจรเนื่องจากขาดอายุความ ส่วนข้อหาตามกฎหมายฟอกเงินนั้นพยานหลักฐานไม่เพียงพอ มีการสั่งย้ายรองอธิบดีดีเอสไอไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้อธิบดีดีเอสไอมาเป็นประธานสับเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้แทนของสำนักงานอัยการสูงสุด และในที่สุดมีมติออกมาดังกล่าว คือ ให้แจ้งข้อหาความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน นายชูศักดิ์พยายามไขข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษยัดเยียดข้อหาให้นายพานทองแท้ ทั้งๆ ที่กรมนี้เคยมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาก่อน ขณะนั้นนายชูศักดิ์ไม่เคยออกมากล่าวหาดีเอสไอสมัยนายธาริตว่าถูกการเมืองแทรกแซงแต่อย่างใด หรือกรณีนายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ หรือกุ๊ก อัยการผู้เชี่ยวชาญ ถูกมือมืดส่งมาเป็นอัยการในคณะทำงานคดีนายพานทองแท้ตั้งแต่แต่ต้น นายชูศักดิ์ก็ไม่เคยออกมาติติงว่าอัยการผู้นี้ส่อพฤติกรรมว่าไม่เป็นกลางแต่ประการใด
“ทั้งๆ ที่นายวัชรินทร์มีความสนิทสนมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสามีเป็นอย่างมาก ถึงขั้นไปร่วมงานวันเกิดที่ รร.เอสซีปาร์ค และเรียกนายวัชรินทร์ว่าท่านกุ๊กทุกคำ และผมเคยออกมาท้วงติงการทำหน้าที่ของนายวัชรินทร์ในคดีนี้ว่าอาจไม่เป็นกลาง นายวัชรินทร์จึงขอถอนตัวจากคดีนี้ไป เพราะนายวัชรินทร์ถอนตัวหรือไม่ ที่นายชูศักดิ์ว่ามีการสับเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้แทนของสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งก็เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมแล้ว ทำไมกรณีนายวัชรินทร์มาเป็นอัยการในคณะทำงานคดีนายพานทองแท้ แต่นายชูศักดิ์จึงนิ่งเงียบ รวมถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรมคืนเงิน 46,000 ล้านบาทให้นายทักษิณ ทำไมนายชูศักดิ์จึงเห็นกงจักรเป็นดอกบัว แต่ไม่ว่าจะไปเป็นอะไรก็สุดแท้แต่ แต่อย่าลืมหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักละเมิดที่เคยสอนลูกศิษย์ สมัยที่ท่านเป็นอธิการบดีเคยเซ็นชื่อไล่นักศึกษาที่ทุจริตในการสอบไปนับไม่ถ้วนแล้ว ทำไมกรณีนายพานทองแท้ทุจริตในการสอบกลับได้ปริญญาบัตร ลูกชาวบ้านทำไมถูกไล่ออก อาจารย์ชูศักดิ์เคยถามถึงเกียรติยศของรามคำแหงมหาวิทยาลัยของประชาชนบ้างหรือไม่ คนโกงมันโกงตั้งแต่การสอบ โกงแม้แต่ตัวเอง ไม่ซื่อสัตย์กับตนเอง มันจะซื่อสัตย์กับประเทศชาติได้อย่างไร” นายวัชระกล่าว
นายวัชระกล่าวอีกว่า การที่นายพานทองแท้ อ้างเรื่องเงินที่ได้รับจากกลุ่มกฤษดานครว่าแค่ 10 ล้าน เท่ากับ 0.1% ของเงินทั้งหมด ถ้านายพานทองแท้ซึ่งเป็นวัยรุ่นขณะนั้นไม่ได้เป็นลูกนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคนสั่งการให้นายวิโรจน์ นวลแข ประธานบอร์ดกรุงไทย ให้ปล่อยกู้นายพานทองแท้ จะได้เงินแผ่นดิน 10 ล้านและ 26 ล้านบาทจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ประธานกลุ่มกฤษดานครเข้าบัญชีนายพานทองแท้หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายตรงไปตรงมา อย่าหวั่นไหวสิ่งใด ดีเอสไอควรถ่ายสำเนาเช็คที่นายวิชัย สั่งจ่ายนายพานทองแท้ ขยายภาพเช็คให้ใหญ่เท่าหน้าหนังสือพิมพ์โชว์ให้ประชาชนทั้งประเทศดูด้วยว่านายพานทองแท้ได้รับเงินจริงหรือไม่ และเข้าบัญชีนายพานทองแท้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางพลัด วันที่เท่าไหร่ รวม 36 ล้านบาทใช่หรือไม่”